ผู้ว่าฯ กทม.พร้อมเลขาธิการ กสทช. ลงพื้นที่ตรวจการจัดระเบียบสายสื่อสาร บริเวณสะพานอรทัย ถ.พระราม 5 เตรียมจัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผยจัดเก็บสายลงใต้ดินคาดแล้วเสร็จใน 2 ปี
วันนี้ (23 ก.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการจัดระเบียบสายสื่อสารบริเวณสะพานอรทัย ถนนพระราม 5 ซอยข้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์พณิชยการพระนคร ซึ่งอยู่บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อเตรียมงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในวันที่ 28 ก.ค.61
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อัศวิน และ นายฐากร ได้ขึ้นรถกระเช้าเพื่อดำเนินการมัดรวบสายสื่อสารบริเวณสะพานอรทัย ถนนพระรามที่ 5 เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ในวันที่ 26 ก.ค.61 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา โดยดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบริเวณถนนกรุงเกษมและถนนพระรามที่ 5 ตั้งแต่แยกสะพานแดงถึงทำเนียบรัฐบาล (สะพานอรทัย) ระยะทาง 4.2 กม. และเส้นทางถนนกรุงเกษม ตั้งแต่ท่าเรือเทเวศร์ ถึงตลาดโบ๊เบ๊ ระยะทาง 2.8 กม. โดยการมัดรวบสายสื่อสาร (marker) เพื่อกำหนดเจ้าของสายสื่อสาร และรื้อถอนสายสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้หารือกับทาง กสทช. และผู้ประกอบการด้านการสื่อสาร โดยเห็นตรงกันว่าควรนำสายสื่อสารลงใต้ดิน เพื่อความสะอาด สวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้หารือในเรื่องนี้กับทางเลขาธิการ กสทช. โดยทาง กสทช. ได้ขอให้ กทม.ทำเรื่องเพื่อขอใบอนุญาตการนำสายสื่อสารลงดิน ซึ่งขณะนี้กระบวนการขออนุญาตใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ โดยภายใน 2 ปี คาดว่า จะสามารถดำเนินการนำสายสื่อสารลงใต้ดินได้ทั้งหมด โดยทาง กทม.ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ก็จะเป็นผู้ดำเนินการให้ผู้ประกอบการด้านการสื่อสารเช่า โดยไม่ได้หวังผลกำไร แต่ต้องการทำให้บ้านเมืองของเรามีความสะอาด ขณะเดียวกัน การไฟฟ้านครหลวงก็ได้มีความพยายามในการนำสายไฟฟ้าลงดิน โดยมีถนนบางเส้นทางได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยรวมสามารถนำสายไฟฟ้าลงดินได้ระยะทาง 50 กม. ยกตัวอย่างเช่น ถนนพหลโยธิน เป็นต้น ซึ่งเสาไฟฟ้าที่ถอนออกกรุงเทพมหานครได้นำไปทำแนวป้องกันคลื่นเซาะชายฝั่งทะเลที่เขตบางขุนเทียน โดยการทำงานจะค่อยๆ ทำเป็นช่วงๆ ขอยืนยันว่า ประมาณ 2 ปี จะดำเนินการเสร็จสิ้น และสัญญาว่าจากที่เคยเห็นสายไฟห้อยระโยงระยางก็จะไม่มีอีกต่อไป
ด้านเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า การทำงานจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรกเป็นการจัดระเบียบสายสื่อสาร และส่วนที่ 2 เป็นการนำสายสื่อสารลงดิน ซึ่งในส่วนการจัดระเบียบสายสื่อสารนั้นจะดำเนินการในรูปแบบ จิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งในส่วนที่ 2 กรุงเทพมหานครจะเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการดำเนินการในถนนทุกเส้นทาง โดยถนนที่สร้างใหม่จะมีการติดตั้งท่อระบบสายสื่อสารลงดินทั้งหมด ส่วนท่อสายสื่อสารที่มีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นของผู้ประกอบการรายใดก็ตามก็จะให้มีอยู่คงเดิม แต่ถ้าต้องการจะขยายท่อสายสื่อสารออกไปจะเป็นหน้าที่รับผิดชอบของกรุงเทพมหานครแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น