พื้นที่ยิ่งห่างไกล ยิ่งป่วย “ตาต้อกระจก” รุนแรง ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ฯ เสนอ สปสช.ต่อรองราคาเลนส์แก้วตาเอียง เพิ่มเติมในชุดสิทธิประโยชน์
รศ.นพ.อนุชิต ปุญญทลังค์ ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ป่วยตาต้อกระจกในประเทศไทย ว่า สถานการณ์เป็นไปเช่นเดียวกับทั่วโลก คือ ประชากรที่มีอายุมากตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป จะป่วยเป็นต้อกระจกมากขึ้น แต่ภายหลังที่ประเทศไทยได้ทำโครงการลดการตาบอดจากต้อกระจก พบว่า ผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกในระดับรุนแรงลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเขตเมืองที่พบผู้ป่วยน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ห่างไกลยังคงมีผู้ป่วยอยู่ ในเขตอำเภอที่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 100-200 กิโลเมตร จะพบผู้ป่วยต้อกระจกในระดับรุนแรงหรือต้อสุกมากๆ ประมาณ 20-30% ของคนผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่หากเป็นอำเภอที่ห่างไกลออกไปอีก เช่น อุ้มผาง ท่าศาลา จะพบผู้ป่วยประมาณ 70-80% ของผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา สาเหตุมาจากความยากลำบากในการเดินทางรักษา ปัญหาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และรู้สึกกลัวการเข้ารับการรักษา
“ที่ผ่านมา สปสช.ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ดีขึ้นเรื่อยๆ และได้ขยายความครอบคลุมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนเลนส์ที่เราใส่กันอยู่ในปัจจุบันมีราคาแพงมาก แต่พอ สปสช.เข้ามาช่วยในเรื่องนี้ ก็ใช้กลไกการต่อรองราคา ซึ่งทำให้ซื้อได้ในราคาที่ถูกลง ผู้ป่วยเข้าถึงได้มากขึ้น โดยเลนส์เหล่านี้มีคุณภาพตามมาตรฐาน แต่อาจจะไม่ถึงกับทันสมัยใหม่ล่าสุด อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมีข้อเสนอเพิ่มเติม คือ อยากให้ สปสช.เข้ามาดูเรื่องราคาเลนส์พิเศษแก้สายตาเอียง โดยอาจจะต่อรองราคาให้ถูกลงหรือให้คนไข้ช่วยจ่ายเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้คนไข้ได้รับการรักษาในครั้งเดียวโดยไม่ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายตัดแว่นสายตาเอียงอีก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่พยายามผลักดันกันอยู่” รศ.นพ.อนุชิต กล่าว
รศ.นพ.อนุชิต กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์จักษุแพทย์ในปัจจุบัน ในเมื่อผู้ป่วยอยู่ในเมืองเป็นจำนวนมาก จักษุแพทย์ในปัจจุบันจึงกระจุกตัวอยู่ในเขตเมือง ขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัดจะมีแพทย์น้อยมาก สะท้อนถึงปัญหาการกระจายตัวของจักษุแพทย์ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ร่วมกับราชวิทยาลัยทุกๆ สาขา หนึ่งในนั้นคือ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ฯ ในการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนของแพทย์ ทั้งเชิงการคงอยู่ของตัวแพทย์เองและทำให้แพทย์อยู่ในชนบทได้ เบื้องต้นมีการสำรวจและพบว่าในต่างจังหวัดขาดแคลนจักษุแพทย์ราวๆ 110 ตำแหน่ง ขณะที่ในแต่ละปีราชวิทยาลัยสามารถฝึกอบรมได้ประมาณ 40 กว่าราย จึงมีการคุยกันหลายฝ่ายทั้งเขตสุขภาพ สธ. สถาบันฝึกอบรมต่างๆ โดยเห็นตรงกันว่าจะร่วมกันผลิตให้ได้ถึงปีละ 50 ราย ซึ่งจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ในปีนี้ได้