รมว.สธ. ชี้ ถ่ายโอน รพ.สต. จากกระทรวงสาธารณสุข ไปยัง อปท. เป็นเรื่องของความพร้อมและความสมัครใจ เผย ศึกษาการถ่ายโอน 52 รพ.สต. พบมีทั้งดีและเสีย ด้านชาว รพ.สต. วิจารณ์หนัก ทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน หวั่นความไม่พร้อม การเชื่อมโยงระบบกับ รพ. สังกัด สธ.
จากกรณีคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) มีมติเห็นชอบหลักการ ถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามหลักการกระจายอำนาจนั้น
วันนี้ (1 มิ.ย.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การกระจายอำนาจมีมติมากว่า 10 ปี ไม่ใช่เรื่องใหม่ ซึ่งบางส่วนมีการดำเนินการแล้ว ปัจจุบันมี รพ.สต.ไปอยู่ในความดูแลของ อปท. จำนวน 52 แห่ง จาก รพ.สต. ทั่วประเทศกว่า 9,800 แห่ง ซึ่ง สธ. ได้พยายามวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียการโอน รพ.สต. ไปอยู่ อปท. โดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เป็นผู้ศึกษาจาก รพ.สต. จำนวน 52 แห่ง ผลก็ออกเป็นครึ่งๆ คือ มีทั้งบวกและลบ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีความพยายามเหมือนเดิม คือ มอบอำนาจหรือกระจายอำนาจสู่พื้นที่ คือ อปท. แต่หลักการ คือ ต้องมีความพร้อม ทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ที่จะถ่ายโอนไป และผู้ที่รับไปดูแล ซึ่งต้องมีการเชื่อมโยงการบูรณาการกันเพื่อทำประโยชน์แก่ประชาชน
ด้าน พญ.มยุรา กุสุมภ์ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เบื้องต้น รพ.สต. หลายแห่งที่ออกไปก็รู้สึกดี โดยความเห็นส่วนตัวเห็นว่า การทำหน้าที่หลักของ รพ.สต. เป็นเรื่องการส่งเสริมป้องกัน ดูแลประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดูแลรับผิดชอบตั้งแต่ตัวเอง คนป่วย และหน่วยงานในท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ที่จะดูแลส่วนการสนับสนุนของ รพ.สต. ที่ไปอยู่ปลายทาง ดังนั้น ทางท้องถิ่นสามารถทำงานได้ แต่ก็ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมว่า บทบาทของแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร นอกจากนี้ ต้องมีการหารือร่วมกันในทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาความพอดีและเหมาะสม โดยนำตัวอย่างที่เกิดขึ้น สถานการณ์ปัจจุบัน และกฎหมายที่มี มาร่วมวางแผนให้ชัดเจน และดำเนินการให้จริงจังขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บุคลากรใน รพ.สต. หลายแห่งต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต. ซึ่งมีทั้งที่เห็นด้วยและคัดค้าน โดยเฉพาะเฟซบุ๊กกลุ่ม “ชมรม ผอ.รพ.สต.(ประเทศไทย)” ที่มีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย แต่โดยหลักคือ รพ.สต. มีความพร้อมหรือไม่ในการโอนย้าย และการทำงานเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลสังกัด สธ. จะเป็นอย่างไรต่อไป นอกจากนี้ พบว่า ภายในกลุ่มดังกล่าว นายริซกี สาร๊ะ เลขาธิการชมรมนักวิชาการสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ได้ทำสร้างโพลสำรวจความคิดเห็นชาว รพ.สต. ว่า เห็นด้วยกับการถ่ายโอน โดยพบว่า เมื่อเวลา 12.00 น. มีผู้โหวต 318 คน “เห็นด้วย” 61% และไม่เห็นด้วย 39% โดยโพลจะสิ้นสุดในอีก 6 วัน
