xs
xsm
sm
md
lg

สรุปยอดเฟสแรก “ร.ร.ร่วมพัฒนา” 42 โรง ภาคเอกชน 11 แห่ง เอ็มโอยู 5 มิ.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“หมออุดม” เผย ธ.กรุงเทพ เสนอตัวเข้าโครงการ ร.ร.ร่วมพัฒนา ส่งผลยอดรวมเป็น 42 โรง ภาคเอกชน 11 แห่ง ครอบคลุม 31 จังหวัด เตรียมเอ็มโอยู 5 มิ.ย. นี้ เล็งหารือ มท. กทม. สช. เข้าร่วมบริหารตามแนวทางนี้ด้วย หวังปฏิรูปการศึกษาอย่างแท้จริง

วันนี้ (30 พ.ค.) นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) ว่า ขณะนี้มีภาคเอกชนเสนอเข้าร่วมโครงการเพิ่มอีก 1 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมบริหารโรงเรียน 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดนิเวศวุฒาราม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครสวรรค์ เขต 1 และ โรงเรียนบางหมาก สพป.ตรัง เขต 2 สรุปผลโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา มีภาคเอกชนร่วมสนับสนุน 11 แห่ง รวม 42 โรงเรียน โดยจะมีพิธีลงนามความร่วมมืออย่างเป็นทางการวันที่ 5 มิ.ย. นี้ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

“ขณะนี้ทุกโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว สำหรับกลุ่มโรงเรียนร่วมพัฒนาจะต้องเร่งตั้งคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา ซึ่งการบริหารงานจะเปลี่ยนไปเน้นความคล่องตัวขึ้น สามารถบริหารจัดการบุคลากร งบประมาณ การจัดการศึกษาได้เองโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็จะดูแลปลดล็อกระเบียบข้อกฎหมายที่เป็นข้อจำกัดให้ โดยในวันที่ 4 มิ.ย. นี้ จะเชิญผู้อำนวยการโรงเรียนทั้ง 42 แห่งมาให้ข้อมูลว่าทำอะไรไปบ้าง และมีข้อติดขัดอะไรหรือไม่ ขณะเดียวกัน จะมีการคณะกรรมการติดตามประเมินและวิจัย ทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลติดตามประเมินผลตั้งแต่ผู้บริหาร ครู นักเรียน ชุมชน โดยเชื่อมโยงในทุกมิติเพื่อดูผลสัมฤทธิ์ เกิดขึ้นอย่างที่ตั้งใจหรือไม่” นพ.อุดม กล่าว

นพ.อุดม กล่าวว่า โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา เป็นเป้าหมายสำคัญในการปฏิรูปการศึกษาของประเทศ ที่ ศธ. จะต้องทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้อนาคตเฟสที่ 2 - 3 โครงการ ครอบคลุมโรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันเฟสแรก 42 โรงเรียน ครอบคลุม 31 จังหวัด อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอว่าอนาคตอาจจะขยายไปให้มีโรงเรียนร่วมพัฒนาใน 225 เขตพื้นที่การศึกษาเขตละ 1 แห่ง เพื่อเป็นแนวทางกับโรงเรียนอื่นๆ ในสังกัดกว่า 3 หมื่นโรง ขณะเดียวกัน จะเจรจากับหน่วยงานอื่นๆ ที่มีสถานศึกษาในกำกับ เช่น กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้มาร่วมมือตามแนวทางนี้เพื่อเป็นพลังในการพัฒนาประเทศด้วย

ด้าน นายมีชัย วีระไวทยะ คณะกรรมการพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษาในรูปแบบโรงเรียนร่วมพัฒนา กล่าวว่า สิ่งที่จะได้เห็นในโรงเรียนร่วมพัฒนา คือ โรงเรียนจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของทุกคน เช่น อยากรู้เรื่องกฎหมาย อาชีพ สุขภาพ มาบอกโรงเรียนก็จะหาผู้รู้มาช่วยสอน และเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งชุมชนตนเองและชุมชนใกล้เคียง ให้รอดพ้นจากความยากจน ขณะที่นักเรียน จะต้องมีส่วนร่วมในการเรียน การสอน และการจัดการในโรงเรียนตลอดจนร่วมดูแลชุมชน ซึ่งจะมีการจัดตั้งองค์การบริหารหมูบ้านเยาวชนขึ้น ให้เยาวชนร่วมกำหนดวางแผนดูแลชุมชน เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น