xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ สั่งรวม ก.อุดมศึกษาและวิจัย ชี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ คาดใช้เวลา 2-3 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“หมออุดม” เผย นายกฯ สั่งรวม ก.อุดมศึกษาและวิจัย ชี้ไม่ใช่แนวคิดใหม่ ตั้งใจทำมาก่อนหน้าแล้ว มอบ “กอบศักดิ์” ดำเนินการ คาดใช้เวลา 2 - 3 เดือน ด้าน ศธ.- วท. เห็นด้วย รวมแล้วเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนานวัตกรรมของประเทศ

วันนี้ (19 พ.ค.) นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงการตั้งกระทรวงอุดมศึกษา ว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. กระทรวงการอุดมศึกษา พ.ศ. ... และกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้เสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวการรวมเรื่องงานวิจัยของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) มาไว้กับอุดมศึกษา เป็นกระทรวงการอุดมศึกษาและวิจัย ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่แนวคิดใหม่ แต่มีการคิดตั้งแต่ร่าง พ.ร.บ. การอุดมฯ แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องของเวลาจึงดำเนินการแค่ส่วนของ ก.การอุดมฯก่อน อย่างไรก็ตาม นายกฯ ได้สั่งการขอให้ทบทวนและให้นำการวิจัยมารวมไว้ด้วย เพราะงานวิจัย 70 - 80% อยู่ในมหาวิทยาลัย

“ที่ผ่านมา ทั้ง ศธ. และ วท. ได้หารือและเห็นตรงกันว่าควรรวมเข้าด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศอย่างมาก เป็นการเสริมพลังจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการศึกษาและการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ” นพ.อุดม กล่าวและว่า นายกฯได้มอบให้ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ ดูแลเรื่องนี้ ซึ่งจากการหารือ นายกอบศักดิ์ มองว่าดำเนินการได้ทันโดยอาจจะใช้เวลาประมาณ 2 - 3 เดือน

นพ.อุดม กล่าวว่า สำหรับชื่อของกระทรวงจะใช้คำว่า “อุดมศึกษา” หรือ “วิจัย” ขึ้นก่อนไม่ใช่ประเด็นสำคัญ และการรวมกันไม่ได้ทำให้วิสัยทัศน์ที่วางไว้เปลี่ยนไป ส่วนการรวมกันจะทำให้เกิดแรงต้านจากคนภายใน วท. หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ จะสร้างความเข้าใจ แต่ในส่วนของ สกอ. ได้มีการทำความเข้าใจกันแล้ว เพราะบุคลากรของ สกอ. จะเป็นกำลังในการสนับสนุนมหาวิทยาลัยต่อไปเมื่อการจัดตั้ง ก.การอุดมฯเกิดขึ้น สำหรับแนวคิดหลักในการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา จะเป็นกระทรวงเล็กที่มีความคล่องตัว สนับสนุนส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยทำงานได้ประสบความสำเร็จ มีความอิสระในการบริหารจัดการ แต่ก็ยังควบคุมน้อยๆ เพื่อเข้าดูแลบางกรณีที่เกิดปัญหา ขณะเดียวกัน ก.การอุดมฯ จะทำหน้าที่เชื่อมโยงมหาวิทยาลัยเพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งรัฐบาลได้มีการกำหนดแผนและยุทธศาสตร์ชัดเจน และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง เชื่อมโยงกับกระทรวงต่างๆ ภาคเอกชน อุตสาหกรรม และประชาชน

นอกจากนี้ มีหน้าที่สนับสนุนให้มหาวิทยาลัย สร้างงานวิจัย สร้างนวัตกรรมเพื่อประโยชน์เองในประเทศ เป็นการพึ่งพาตนเองและลดการนำเข้า ตลอดจนมีหน้าที่ประสานงานจัดงบประมาณ ซึ่งมหาวิทยาลัยต้องตอบโจทย์การทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติ ความต้องการของพื้นที่ เช่น โครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ เพื่อสร้างนักเทคโนโลยี ก็มีการจัดสรรงบเพิ่มดำเนินการประมาณหัวละ 120,000 - 150,000 บาท เป็นต้น แต่ถ้ามหาวิทยาลัยผลิตไม่ตอบโจทย์ทำงานรูทีนก็ต้องไปหาเงินเอง และที่สำคัญ ก.การอุดมฯจะเป็นหน่วยงานวางแผนการผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศในอนาคตด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น