xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ย้ำถูกหมา-แมวกัดข่วน แม้เป็นตัวลูกก็ต้องไปฉีดวัคซีน ชี้ดับแล้ว 7 ราย เหตุชะล่าใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สธ. ย้ำ ถูกสุนัข แมว กัดข่วน รีบล้างแผล พบแพทย์ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ชี้ ดับแล้ว 7 คน เหตุชะล่าใจ เพราะคิดว่าเป็นลูกสัตว์ไม่น่ามีเชื้อ

วันนี้ (28 มี.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในคน ว่า ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 7 ราย แต่บางคนอาจมองว่า เป็น 8 ราย คือ เด็กพม่าด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญขอให้มีการตระหนักในเรื่องการลดจำนวนผู้เสียชีวิตดีกว่า โดยเฉพาะประชาชนหากถูกกัด ถูกข่วน หรือสงสัยสัมผัสเชื้อ ให้รีบล้างแผล และรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจะดีที่สุด เนื่องจากรายที่เสียชีวิต ปัญหาหนึ่งคือไม่รับวัคซีน ส่วนตัวตนมองและหวังว่า จากความร่วมมือครั้งนี้ในการดูแลทั้งสุนัข และคน จะทำให้ปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าลดลง และประชาชนจะมีความตระหนักมากขึ้น แต่ไม่ตระหนก โดยเฉพาะกรณีการหันไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคนล่วงหน้านั้น จริงๆ คนทั่วไปไม่ได้ก่อประโยชน์ สิ่งสำคัญหากถูกกัด ถูกข่วนรีบไปรับวัคซีนดีที่สุด เพราะหากติดเชื้อจะเสียชีวิตอย่างเดียว รักษาไม่ได้ ส่วนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าล่วงหน้านั้น จะเหมาะกับกลุ่มเสี่ยง กลุ่มที่อยู่ใกล้ชิด สัตวแพทย์ เป็นต้น

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 27 มีนาคม 2561 มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย (สุรินทร์ สงขลา ตรัง นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ บุรีรัมย์ และ พัทลุง) ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดอยู่ที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ตรวจพบหัวสัตว์ให้ผลบวกต่อเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จากการสอบสวนโรค พบว่า เมื่อ 1 เดือนก่อน ขณะผู้เสียชีวิตเข้าไปจับลูกสุนัขอายุเพียง 4 เดือน ที่เลี้ยงไว้ ลูกสุนัขกัดบริเวณขาทำให้มีบาดแผลและเลือดออก ซึ่งผู้เสียชีวิตล้างแผลแต่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จากข้อมูลในปีนี้ พบว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกลูกสุนัขกัดหรือข่วน แล้วไม่ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเกิดจากความชะล่าใจในการป้องกันหลังสัมผัสสัตว์ที่เสี่ยงมีเชื้อเพราะคิดว่าเป็นลูกสัตว์ที่นำมาเลี้ยงน่าจะไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า และขาดความตระหนักเพราะเห็นเป็นแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนมีการรับรู้ความเสี่ยง ความรู้ และพฤติกรรมสุขภาพเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่พบหัวสัตว์บวกต่อเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า เห็นได้จากผลการสำรวจความคิดเห็น หรือ DDC poll เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2561 นี้ เช่น ประชาชนคิดว่าโรคพิษสุนัขบ้ารักษาได้ ร้อยละ 14.8, ไม่รู้ว่าลูกสุนัขหรือแมว อายุ 2 - 3 เดือน ต้องพาไปฉีดวัคซีน ถึงร้อยละ 75.4, เมื่อถูกสุนัขแมวกัดหรือข่วน จะไม่ทำอะไรและไม่ไปพบแพทย์ ร้อยละ 51.3 เป็นต้น

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า โรคพิษสุนัขบ้าสามารถพบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว โค กระบือ สุกร เป็นต้น ซึ่งในประเทศไทยจะพบมากในสุนัขและแมว หากประชาชนถูกสุนัขและแมว กัด ข่วน หรือเลียบริเวณแผล แม้เพียงเล็กน้อยก็อย่าได้ชะล่าใจ รีบล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ทันทีหลายๆ ครั้ง ประมาณ 10 นาที หลังล้างแผลใส่ยาฆ่าเชื้อโพวิโดนไอโอดีน (เบตาดีน) เพื่อลดการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จากนั้นรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อพิจารณาการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ถ้าได้รับการฉีดวัคซีนแล้วให้ไปฉีดวัคซีนให้ครบตามนัดทุกครั้ง กรมควบคุมโรค ขอแนะนำว่าประชาชนที่เคยถูกสัตว์เลี้ยงกัดหรือข่วนนานแล้ว โดยเฉพาะในช่วง 1 - 2 เดือนที่ผ่านมา แล้วไม่ได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ขอให้ไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยโดยเร็วเนื่องจากระยะฟักตัวของโรค ตั้งแต่ได้รับเชื้อจนมีอาการป่วยอาจสั้นมาก ตั้งแต่ 1 สัปดาห์หรืออาจนานถึง 1 ปีได้


กำลังโหลดความคิดเห็น