รพ.จุฬาลงกรณ์ จัด “คลินิกเคลื่อนที่” ค้นหาและผ่าตัดฟรีผู้พิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ ถวายพระราชกุศล “สมเด็จพระเทพฯ” เริ่มปล่อยคาราวาน 2 เม.ย. นี้ ให้บริการ รพ.บุรีรัมย์ ที่แรก เผย ส่วนใหญ่มักพบในต่างจังหวัด ในคนยากจน เหตุขาดการวางแผนมีบุตร เมื่อลูกพิการไม่พามารักษา
วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ระเบียงรมณีย์ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ศ.นพ.รื่นเริง ลีลานุกรม รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริการ แถลงข่าว “คลินิกเคลื่อนที่” ช่วยเหลือผู้พิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ ว่า ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นศูนย์เฉพาะทาง ด้านการแก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะชนิดรุนแรงแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยใหม่และเก่าจากทั่วภูมิภาคของประเทศไทยเข้ามารับบริการการตรวจรักษาที่ศูนย์ฯประมาณ 1,400 ราย ส่วนใหญ่มาจากถิ่นทุรกันดารทำให้ประสบปัญหาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แม้ศูนย์ฯจะให้ความช่วยเหลือด้านค่าเดินทาง และค่ารักษาพยาบาลในรายที่มีปัญหาค่าใช้จ่ายแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ยังพบปัญหาของระบบการส่งต่อผู้ป่วยตามหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทำให้ผู้ป่วยบางรายเกิดความล่าช้าในการที่จะได้รับการช่วยเหลือตามช่วงวัยและการดำเนินของโรค รวมถึงอัตราการรอคิวผ่าตัดที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นเวลานาน เนื่องด้วยข้อจำกัดของห้องผ่าตัดที่ต้องใช้กับผู้ป่วยหลายแผนก
ศ.นพ.รื่นเริง กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2559 ศูนย์ฯ ได้เริ่มดำเนินการส่งศัลยแพทย์ไปผ่าตัดตามโรงพยาบาลจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น ดำเนินการไปแล้วกว่า 21 ครั้ง ผ่าตัดรักษาผู้ป่วยจำนวน 51 ราย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ศูนย์ฯจึงได้มีแนวคิดจัดตั้งโครงการคลินิกเคลื่อนที่ขึ้น ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมายุครบ 63 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2561 โดยร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต่างๆ ค้นหาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและศีรษะทุกประเภท ในจังหวัดแถบอีสานใต้ ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร และขอนแก่น เพื่อส่งผู้ป่วยมาเข้ารับการตรวจรักษา โดย รพ.จุฬาลงกรณ์ จะปล่อยขบวนคาราวานรถออกหน่วย “คลินิกเคลื่อนที่” ในวันที่ 2 เมษายน 2561 เวลา 08.30 น. ณ บริเวณด้านหน้าอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ เริ่มให้บริการที่ รพ.บุรีรัมย์ในวันที่ 3 เม.ย. 2561 เป็นที่แรก
ศ.กิตติคุณ นพ.จรัญ มหาทุมะรัตน์ หัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกระโหลกศีรษะ รพ.จุฬาฯ กล่าวว่า จากการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2529 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดร้อยละ 65.7 เป็นเด็กอายุเฉลี่ย 10.9 ปี ที่มีความความพิการบนใบหน้าที่ซับซ้อน มีสาเหตุหลายประการ ทั้งจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดตั้งแต่แรกคลอดหรือเกิดขึ้นภายหลัง ความพิการเหล่านี้มักเกิดกับครอบครัวที่มีฐานะยากจน ซึ่งขาดความรู้ความเข้าใจในการวางแผนการมีบุตร เมื่อบุตรกำเนิดมามีความพิการฯ ทำให้หลายครอบครัวไม่พาบุตรมารับการตรวจรักษา เนื่องจากระยะเวลาเฉลี่ยในการมารับบริการรายละ 2.7 ปี ทำให้ผู้ป่วยได้รับความทุกข์ทั้งกาย ใจ บางรายอาจเสียชีวิตเนื่องจากไม่ได้รับการรักษา ศูนย์ฯ จึงมีนโยบายและเป้าหมายที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยเหล่านี้ให้ได้รับการรักษา เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามสิทธิแห่งความเป็นมนุษย์ที่พึงมีพึงได้ แม้การผ่าตัดรักษาต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พิเศษและราคาแพง ศูนย์ฯ ก็ยินดีช่วยเหลือ
“ศูนย์ฯได้ให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและครอบครัวเฉลี่ยรายละ 500 - 4,000 บาท ซึ่งศูนย์ฯ ได้มีการระดมทุนจากทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน หรือผู้มีจิตศรัทธาจัดกิจกรรมหารายได้ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ กิจกรรมกอล์ฟการกุศลเพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยจากดุสิตธานี การออกร้านของคณะภริยาทูตในทุกๆ ปี จำหน่ายเสื้อ กำไรสื่อรักในวันสำคัญต่าง ๆ ได้รับเงินบริจาค ผ่านบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี “ผู้ป่วยพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ จุฬาลงกรณ์” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-503329-2 ธนาคารกรุงไทย สาขาปทุมวัน เลขที่บัญชี 008-0-07821-4 ธนาคารกสิกรไทย สาขาพัฒน์พงศ์ เลขที่บัญชี 081-2-94741-5 ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุรวงศ์ เลขที่บัญชี 147-4-71940-6 นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยเหลือเป็นวัสดุครุภัณฑ์ทางการแพทย์ บริจาคเป็นสิ่งของ เช่น ผ้าอ้อม ของเล่น อุปกรณ์การพัฒนาการเรียนรู้ของผู้ป่วย ช่วยสนับสนุนงาน “สุขสันต์ วันพบปะครอบครัว” “Happy family day” ที่จัดขึ้นในทุกปีเสมือนเป็นวันเด็กสำหรับผู้ป่วยและครอบครัวได้” ศ.กิตติคุณ นพ.จรัญ กล่าว
รศ.นพ.นนท์ โรจน์วชิรนนท์ รองหัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ กล่าวว่า โครงการคลินิกเคลื่อนที่จะทำการออกค้นหาและรักษาผ่าตัดที่โรงพยาบาลในท้องถิ่นต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะในต่างจังหวัดให้ได้เข้าถึงการตรวจรักษาที่มีคุณภาพสูงสุดทัดเทียมนานาอารยประเทศ และถ่ายทอดความรู้ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในท้องถิ่น พร้อมสนับสนุนเวชภัณฑ์และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้สามารถรักษาผ่าตัดได้ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ถึงปี พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ ความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะเป็นปัญหาที่มีผลกระทบไม่เฉพาะต่อตัวผู้ป่วย แต่รวมไปถึงครอบครัวและสังคมต่อตัวผู้ป่วยเอง ซึ่งความพิการผิดรูปมองเห็นได้ชัดเจนแม้ว่าจะเป็นเพียงเล็กน้อย และหากรุนแรงก็จะมีปัญหาต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ไปด้วย เช่น สมองพิการ ตาบอด หูไม่ได้ยิน การกินการเคี้ยวผิดปกติ การพูดไม่ชัด ผู้ป่วยเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลทั้งทางด้านจิตใจ สังคม การศึกษา เศรษฐกิจ หากมีความพิการชนิดรุนแรงและซับซ้อน จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาแก้ไขโดยผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมตามอายุ การผ่าตัดก็ซับซ้อนมีความเสี่ยงสูงมาก และต้องการการดูแลที่ดี จึงไม่สามารถกระทำได้ในโรงพยาบาลที่ไม่มีความพร้อม