หมอเผย 6 กลุ่มเสี่ยงโรคมะเร็งตับอ่อน ห่วงยังไม่สามารถตรวจคัดกรองได้ในระยะเริ่มแรก แนะป้องกันตนเอง งดสูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา ควบคุมน้ำหนัก รับประทานอาหารไขมันต่ำ เน้นผักผลไม้ ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า แม้ว่าโรคมะเร็งตับอ่อนจะพบได้ไม่บ่อยในคนไทย แต่มักพบในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคมะเร็งตับอ่อน แต่พบว่าปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ โดยกลุ่มเสี่ยงคือ 1. เพศชายอายุระหว่าง 60 - 65 ปี 2. พันธุกรรม 3. โรคอ้วน เบาหวาน 4. รับประทานอาหารไขมันสูง 5. สูบบุหรี่จัด ดื่มสุรา และ 6. เป็นโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง ทั้งนี้ โรคมะเร็งตับอ่อนเป็นโรคที่อาจพบได้น้อย แต่เมื่อพบแล้วมักอยู่ในระยะลุกลามและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพในการค้นหาโรคมะเร็งตับอ่อนในระยะเริ่มต้น ดังนั้น ควรป้องกันตนเองโดยงดสูบบุหรี่และไม่ดื่มสุรา ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำและผักผลไม้มากๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรได้รับการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า อาการของโรคมะเร็งตับอ่อนเมื่อเริ่มเป็นมักไม่มีอาการแน่ชัดขึ้นอยู่กับตำแหน่งของก้อนมะเร็งในตับอ่อน ส่วนใหญ่มักมีอาการ ตัวเหลือง ตาเหลือง จากการที่ก้อนเนื้องอกโตไปกดเบียดท่อน้ำดี หรือมีอาการปวดบริเวณส่วนบนของช่องท้อง และร้าวไปด้านหลัง เนื่องจากตับอ่อนเป็นอวัยวะที่วางตัวอยู่ด้านหลังช่องท้อง ผู้ป่วยส่วนใหญ่เมื่อมีอาการมาพบแพทย์มักพบว่ามะเร็งลุกลามไปมากไม่สามารถผ่าตัดเพื่อหวังผลหายขาดได้ ในรายที่โรคลุกลามไปอวัยวะข้างเคียง มักกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองและเส้นประสาทด้านหลังทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลังมาก โดยเฉพาะในระยะท้ายๆ ของโรค ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนจึงมีอัตราการรอดชีวิตต่ำการรักษามะเร็งชนิดนี้ที่สำคัญที่สุดคือการผ่าตัด
“การรักษามะเร็งตับอ่อนจะได้ผลค่อนข้างดีหากสามารถผ่าตัดเอาเนื้องอกและอวัยวะข้างเคียงรวมถึงต่อมน้ำเหลืองบริเวณนั้นออกได้ทั้งหมด อาจมีการรักษาเพิ่มเติมโดยเคมีบำบัดหรือรังสีรักษาร่วมด้วย แต่มักไม่ได้ผลดี ส่วนในรายที่ไม่สามารถผ่าตัดออกได้หรือผ่าออกได้ไม่หมด การรักษาอาจเป็นการผ่าตัดระบายน้ำดี หรือทางเดินอาหาร และการรักษาแบบประคับประคองตามอาการของผู้ป่วย” นพ.วีรวุฒิ กล่าว