นักวิชาการ - ภาค ปชช. จี้ สนง.สลากฯ ตอบ 3 คำถามสังคม แก้กฎหมายใหม่ เพิ่มอำนาจให้บอร์ดออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ ตีเช็คเปล่า 1 พันล้านบาท ใช้จ่ายกองทุนสลากแบบไร้เงื่อนไข และเพิ่มบทลงโทษคลุมสลากรวมชุดหรือไม่ ย้ำ อย่าให้การรับฟังความคิดเห็นประชาชนเป็นแค่พิธีกรรม
ความคืบหน้ากรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้เปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ. สลากกินแบ่งรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา และได้เปิดให้ประชาชนแสดงความเห็น มีองค์กรต่างๆ ทั้งนักวิชาการ เด็กเยาวชน ผู้พิการ - ผู้ค้าสลาก ผู้ใช้แรงงาน และภาคประชาสังคม นำเสนอความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร โดยล่าสุดคณะกรรมการหรือบอร์ดสลากฯ ได้ประชุมรับทราบผลการรับฟังความเห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเป็นลำดับต่อไป
วันนี้ (19 ธ.ค.) รศ.ดร.รัตพงษ์ สอนสุภาพ อาจารย์ประจำวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า พ.ร.บ. สลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับใหม่ มีเรื่องจับตา 4 ประเด็น คือ 1. โครงสร้างบอร์ดบริหารคือหัวใจสำคัญของสำนักงานสลากฯ เท่าที่สังเกต พ.ร.บ. ฉบับนี้ มีเพียงการเพิ่มบอร์ดบริหาร จากเดิม 9 คน เป็น 11 คน ส่วนมากมาจากข้าราชการประจำ และการแต่งตั้งจาก ครม. ซึ่งอาจเป็นฝ่ายการเมืองหรือนักวิชาการ 2. ให้อำนาจหน้าที่บอร์ดมากขึ้น เช่น ออกผลิตภัณท์รูปแบบใหม่ได้เอง ไม่ต้องผ่านมติ ครม. เช่น สลากออนไลน์ หรือสลากที่มีความหลากหลาย ประเด็นนี้อาจนำสังคมไทยเข้าสู่ธุรกิจการพนันในอนาคต ซึ่งภาคประชาสังคมต้องมีส่วนร่วมในการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด 3. ควรใช้อำนาจกระจายสลากอย่างมีประสิทธิภาพและถึงมือผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม ทั้งเรื่องโควตาและราคาที่ต้องควบคุมได้ เนื่องจากที่ผ่านมาแม้จะนำเทคโนโลยีมาใช้แต่ราคาสลากก็ยังควบคุมไม่ได้ โครงสร้างเดิมจึงไม่ตอบโจทย์ หากในอนาคตมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ จะบริหารจัดการอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ และ 4. ขอชื่นชมที่เงินรายได้ 1% จัดสรรเป็นกองทุนเพื่อพัฒนาสังคม ซึ่งนานาประเทศล้วนทำแบบนี้ สำนักงานสลากฯควรใช้เงินกองทุนตัวนี้ให้ตรงวัตถุประสงค์ที่เขียนไว้ เปิดเผยและตรวจสอบได้ และที่สำคัญ ต้องควบคุมการพนันเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสังคม
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า อยากฝาก 3 คำถามต่อคณะกรรมการสลากฯ ในการแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ ได้แก่ 1. ยังคงยืนยันจะเพิ่มอำนาจให้ตนเองสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งสลากล็อตโต้ สลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว สลากออนไลน์ และสลากอื่นๆ โดยไม่มีบทกำหนดกลไกและมาตรการกลั่นกรองใดๆ แม้กระทั่งการผ่านมติของ ครม. ใช่หรือไม่ 2. ยังคงยืนยันให้กองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม จำนวน 1,000 ล้านบาทต่อปี อยู่ภายใต้การดูแลของตนเอง โดยไม่มีข้อกำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายใดๆ เช่น ไม่กำหนดสัดส่วนการใช้เงินตามวัตถุประสงค์แต่ละข้อ ไม่จัดทำแผนยุทธศาสตร์ และที่สำคัญ ไม่มีคณะกรรมการดูแลกองทุนที่เป็นอิสระหรือไม่ เพราะเสมือนเป็นการตีเช็คเปล่า 1,000 ล้าน ให้ตนเองใช้จ่ายได้ตามอำเภอใจ และ 3. จะเพิ่มบทลงโทษการกระทำผิดต่างๆ ที่เกี่ยวกับกิจการสลากที่มากกว่าการห้ามขายสลากในสถานศึกษา และการห้ามขายสลากแก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือไม่ เช่น เอาผิดกับกระบวนการรวมชุด การหลอกลวงเลขเด็ดต่างๆ เป็นต้น ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่สังคมต้องการความชัดเจนและตรงไปตรงมา
ด้าน นายมนัส โกศล ประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน กล่าวว่า พ.ร.บ. สลากฯฉบับใหม่ ควรมีเนื้อหาในการจัดสรรรายได้จากการจำหน่ายสลากฯ ที่ถือว่าเป็นเงินบาปแบ่งมาเพื่อพัฒนาสังคมในด้านต่างๆ เช่น เพิ่มศักยภาพของภาคประชาชน ส่งเสริมให้ประชาชนเรียนรู้และเข้าถึงสิทธิพื้นฐานของตัวเอง หรือจัดเป็นสวัสดิการเพื่อสังคมต่อกลุ่มประชากรที่ด้อยโอกาส หรือสังคมผู้สูงอายุ ที่สำคัญ ต้องยอมรับว่า สลากคือการพนันอย่างหนึ่ง โดยมีรัฐบาลเป็นเจ้าของ และผู้ซื้อสลากฯส่วนใหญ่เป็นคนจน ดังนั้น เงินรายได้ควรกลับมาช่วยเหลือคนจนหรือเป็นประโยชน์ต่อสังคม และรัฐบาลต้องมีหน้าที่ปกป้องควบคุมการพนันไม่ปล่อยให้มอมเมาสังคม และที่ผ่านมา มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนกันไปแล้ว ตกลงผลสรุปเป็นอย่างไร รับฟังจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่พิธีกรรมให้ครบองค์ประกอบ ต้องชี้แจงต่อประชาชนเจ้าของประเทศไม่ใช่เงียบจนผิดสังเกต