xs
xsm
sm
md
lg

น้ำด่างล้างช่องคลอดหลังมีเซ็กซ์ ไม่ช่วยป้องกันท้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ฉากใช้น้ำด่างล้างช่องคลอดในละครรากนครา
สูตินรีแพทย์ ชี้ ใช้น้ำด่างล้างช่องคลอดหลังมีเซ็กซ์ ไม่ช่วยป้องกันท้อง เหตุอสุจิเติบโตได้ดีในความเป็นด่าง ระบุ แม้จะใช้น้ำมีฤทธิ์เป็นกรดล้าง เช่น น้ำมะนาว ก็ไม่ช่วย เหตุอสุจิมาพร้อมน้ำอสุจิที่เป็นด่างในการป้องกันตัว

พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ ประจำ รพ.พิจิตร กล่าวถึงกรณีฉากหนึ่งในละคร “รากนครา” ที่มีการใช้น้ำด่างล้างช่องคลอดเพื่อไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นความเชื่อของคนโบราณ ว่า ข้อเท็จจริงคือ ช่องคลอดของผู้หญิงมีความเป็นกรด ขณะที่น้ำอสุจิของผู้ชายที่หลั่งออกมา ซึ่งสร้างโดยต่อมลูกหมาก เพื่อเป็นแหล่งอาหารของตัวเองอสุจินั้น จะมีความเป็นด่าง หากสังเกตจะมีสีข้นและกลิ่นของความเป็นด่างเฉพาะตัว และอสุจิจะมีชีวิตได้ดีในความเป็นด่างด้วย ทั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิถูกกรดทำลายในช่องคลอด สรุป คือ อสุจิของความเป็นด่าง ไม่ชอบความเป็นกรด

“การเอาน้ำด่างไปล้างช่องคลอดแล้วทำให้ไม่ท้องนั้น เป็นความเชื่อโบราณ แต่ความจริงแล้วความเชื่อโบราณจะใช้น้ำกรด โดยมีการใช้น้ำมะนาวล้าง หรือบางคนอาจจะคิดว่าเอาน้ำอัดลม น้ำโซดาไปล้าง ทั้งนี้ จากการวิจัยก็พบว่าเมื่อนำตัวอสุจิที่อยู่ในน้ำอสุจิมาหยอดน้ำมะนาวลงไปพบว่าตัวอสุจิจะตายจริงๆ แต่เวลาอสุจิเข้าไปในร่างกายมนุษย์แล้วจะวิ่งเร็วมาก เพราะฉะนั้นล้างไม่ทัน สรุปว่า การสวนล้าง ไม่ว่าจะสวนล้างด้วยน้ำอะไรก็ตามไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ความเป็นกรดเป็นด่างไม่มีผลเลย เพราะอสุจิเข้ามาพร้อมอาวุธป้องกันตัวเอง คือน้ำอสุจิที่มีความเป็นด่างพร้อมกับอาหาร ดังนั้น การป้องกันการตั้งครรภ์โดยการอาบน้ำด่าง ล้างน้ำด่าง หรือหลังมีเพศสัมพันธ์แล้วเอาอะไรใส่เข้าไปในช่องคลอดไม่ได้ช่วยอะไร” พญ.ชัญวลี กล่าว

พญ.ชัญวลี กล่าวว่า การปฏิสนธิเกิดจากอสุจิผสมกับไข่ โดยอสุจิต้องแข็งแรง และใน 1 เดือน ผู้หญิงจะไข่ตกได้แค่ 24 ชั่วโมง นั่นคือ มีโอกาสท้อง 1 วัน ใน 1 เดือน เฉพาะวันที่ไข่ตกเท่านั้น แต่อสุจิที่เข้าไปสู่ร่างกายผู้หญิงจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน 3 วัน ดังนั้น ถ้ามีเพศสัมพันธ์ก่อนไข่ตก 3 วันก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ส่วนการป้องกันการตั้งครรภ์ คือ การป้องกันการไม่ให้อสุจิผสมกับไข่ มี 3 วิธี คือ 1. ป้องกันไม่ให้ไข่ไม่ตก เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด ฮอร์โมนต่างๆ 2. ใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงยางอนามัย หมวกสวมปากมดลูก ไดอะแฟมหรือกระบังคมกั้นมดลูก ซึ่งคนไทยจะไม่ชอบ และ 3. การไม่ทำให้ฝังตัว คือ เมื่อไข่ผสมกับอสุจิภายใน 1 สัปดาห์จะเดินทางไปฝังตัวที่มดลูก การป้องกันฝังตัวคือ การใส่ห่วงอนามัย ซึ่งห่วงจะมีทองแดงซึ่งสารที่เป็นพิษต่อตัวอ่อนของสัตว์ ทำให้ฝังตัวไม่ได้ หรือระหว่างรอให้ประจำเดือนมา อาจจะใช้การดูดผนังมดลูกออกมา เพื่อไม่ให้เกิดการฝังตัว ซึ่งไม่ใช่การทำแท้ง เพราะไม่มีการฝังตัว ไม่มีตัวอ่อน ไม่ผิดกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น