รมว.สธ. ยันปี 60 สปสช. ยังจัดซื้อยา ไม่มีปัญหายาจำเป็นขาดแคลน เผยปี 61 แต่งตั้ง คกก. ต่อรองราคา - จัดซื้อยาชุดใหม่มี สธ. สปสช. อภ. รพ.ราชวิถี เป็นตัวแทน รพ. ร่วมทำงาน ก่อนเสนอ ครม.
วันนี้ (16 ส.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีภาคประชาชนมีความห่วงใยต่อปัญหากลุ่มยาจำเป็นขาดแคลน เนื่องจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อได้ ว่า เรื่องนี้ตนตัดสินไปแล้วว่า ในปี 2560 ให้ สปสช. ดำเนินการจัดซื้อยาตามเดิม โดยบอร์ด สปสช. เป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้น จะไม่มีปัญหาเรื่องยาขาด ทุกอย่างไม่มีผลกระทบกับผู้ป่วยเลย เมื่อวันที่ 15 ส.ค. มีการคุยกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) สั่งซื้อและจ่ายเงินเรียบร้อย ส่วนสถานการณ์ยาในโรงพยาบาลต่างๆ ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหา อย่างยาผู้ป่วยเอดส์ ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังก็ไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้น ไม่อยากให้กังวล หากใครมีปัญหาอะไร ที่ไหนขาดยาก็ให้รายงานเข้ามา
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า สำหรับการจัดซื้อยาในปีงบประมาณ 2561 สปสช. จะร่วมกับ สธ. แต่งตั้งคณะกรรมการต่อรองราคา และจัดซื้อยาขึ้นมาใหม่ 1 ชุด เพื่อให้สามารถซื้อยาบัญชี จ. 2 หรือยากำพร้าที่มีการผลิตน้อย ยาต้านพิษ ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นนี้เป็นการตั้งกระบวนใหม่เลย เพื่อให้สามารถจัดซื้อยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ผิดต่อ พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 หรือกฎหมายบัตรทองฉบับเดิม โดยให้เป็นคณะกรรมการร่วมจากหลายภาคส่วน ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ภายในเร็ววันนี้ เพราะว่าต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบด้วย
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. กล่าวว่า ในการหารือร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มีทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าร่วมและเสนอว่า จากการพิจารณาตามอำนาจทางกฎหมายของ สปสช. ไม่สามารถจัดซื้อยาได้ ต้องให้ทางหน่วยบริการเป็นผู้จัดซื้อ ซึ่งทาง สธ. ก็ไม่ใช่หน่วยบริการ อภ. ก็ไม่ใช่ จึงต้องให้ทางโรงพยาบาลของ สธ.เป็นตัวแทน คือ รพ.ราชวิถี แต่ทำงานร่วมกันทั้งหมด ทั้ง สธ. สปสช. และ อภ. และจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมา โดยจะมีการพิจารณาแต่งตั้งขึ้นผ่านบอร์ด สปสช.