เสนอทำ “แบบจำลอง” แยกเงินเดือนจากงบบัตรทองรายอำเภอ สะท้อนชัดพื้นที่ไหนได้ พื้นที่ไหนเสีย พร้อมหาวิธีแก้ไข ย้ำ ปชช. ไม่ได้รับผลกระทบ ด้าน รพ.ภาคอีสาน หากเงินน้อยลง มีวิธีช่วยเหลือ
จากกรณีชมรมแพทย์ชนบทและกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ออกมาให้ข้อมูลว่า การแยกเงินเดือนบุคลากรออกจากงบเหมาจายรายหัวกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) จะกระทบกับโรงพยาบาลในเขตภาคอีสาน ทำให้ได้รับเงินน้อยลง และบุคลากรจะไปกระจุกตัวในเขตเมืองมากขึ้น
วันนี้ (19 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. มีการประชุมหารือกรณีความเห็นต่างในการแก้ร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ในประเด็นเรื่องการแยกเงินเดือนบุคลากรออกจากงบเหมาจ่ายรายหัวบัตรทอง กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งตัวแทนฝั่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะมีการประชุมหารือระหว่างปลัด สธ. และเลขาธิการ สปสช. ในวันที่ 22 - 23 ก.ค. นี้ เพื่อหาทางออกอื่นในประเด็นแยกเงินเดือนและจัดซื้อยา ซึ่งทางภาคประชาชนไม่ขอเข้าร่วม
ต่อมา เมื่อเวลา 17.00 น. นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ สธ. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพฯ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้มีการหารือถึงประเด็นแยกเงินเดือน ซึ่งที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า ให้มีการทำแบบจำลองของแต่ละอำเภอว่า เมื่อมีการแยกเงินเดือนแล้วพื้นที่ไหนได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์อย่างไร พร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้แต่ละพื้นที่ ซึ่งมีการดำเนินการมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล ว่าจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากการแยกเงินเดือนนั้น ประชาชนจะได้รับประโยชน์มากกว่าเดิม เพราะประชาชนในทุกภาคทั่วประเทศจะได้รับเงินรายหัวของสิทธิบัตรทองที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น ซึ่งจะเป็นธรรมกว่าที่ผ่านมา ส่วนโรงพยาบาลในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีนี้ ทาง สธ. ไม่ได้นิ่งเฉย แต่มีแนวทางในการการจัดสรรงบเพื่อช่วยเหลือเช่นกัน ส่วนปัญหากระจุกตัวของบุคลากรในเขตเมืองนั้นที่หลายฝ่ายกังวล ทาง สธ. มีแผนอัตรากำลังและกระจายบุคลากรแล้ว
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ กรรมการ สปสช. สัดส่วนภาคประชาชน กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่เข้าร่วมในการหารือย่อยครั้งนี้ เนื่องจากมองว่าไม่มีประโยชน์ เพราะไม่ได้เชิญทุกฝ่ายจริงๆ ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายสนับสนุนอย่างเห็นได้ชัดคือ กลุ่มโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป ทั้งที่ประเด็นแยกเงินเดือนเป็นเรื่องสำคัญ และจะกระทบต่อปัญหาทางการเงินของรพ.ในภาคอีสาน และจะกระทบกับการจ้างลูกจ้างพยาบาลและสหวิชาชีพ จนส่งผลต่อการดูแลประชาชนในชนบทในที่สุด แต่กลับไม่มีการเชิญผู้แทนจากโรงพยาบาลชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วม
“ต้องขอบคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการ สธ.ที่พยายามแก้ไขความเห็นต่างด้วยการให้ความสำคัญของการพูดคุยกัน แต่ปรากฏว่า คนที่จัดประชุมหารือกลับไม่เชิญรอบด้าน และไม่เชิญผู้ที่ได้รับผลกระทบ พวกเราภาคประชาชนมองว่าการไปร่วมหารือคงไม่มีประโยชน์ เพราะคงไม่ได้รับการรับฟัง จึงรอการประชุมรีทรีตที่ชะอำ ในช่วงสัปดาห์นี้ดีกว่า ซึ่งได้สื่อสารไปถึงท่านรัฐมนตรี และต้องขอโทษท่านที่มีความหวังดี แต่ผู้ปฏิบัติไม่ได้ปฏิบัติตาม” น.ส.สารี กล่าว