รมว.แรงงานไทยหารือพม่า แก้ปัญหาต่างด้าวพม่าในไทย ขอเร่งตรวจสัญชาติและออกซีไอ ชี้ จัดระเบียบมีผลดีร่วมกัน
นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และตน เดินทางไปประชุมหารือ ร่วมกับนายเต็ง ส่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่าด้วยแรงงานพม่าในประเทศไทย ที่กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า โดยผลการประชุมคือ ฝ่ายไทยขอให้ทางการพม่าดำเนินการ ดังนี้ 1) เร่งรัดการตรวจสัญชาติและออก CI ให้กับแรงงานพม่า 2) ขอให้จัดส่งแรงงานพม่าในกิจการต่างๆ แบบรัฐต่อรัฐ (G to G)
3) ชี้แจง พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 33/2560 เรื่อง มาตรการชั่วคราวเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว และประกาศกระทรวงแรงงานเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตทำงานและการอนุญาตให้ทำงาน ตาม พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และ 4) ขอให้ตั้งคณะทำงานร่วมไทย - พม่า เพื่อแก้ไขปัญหากรณีมีข้อขัดข้องเพื่อให้ทันการดำเนินการในช่วง 6 เดือน ที่ชะลอบทลงโทษ โดยต้องยกระดับความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นายวรานนท์ กล่าวว่า ด้านฝ่ายพม่ารับข้อเสนอของฝ่ายไทย และรับทราบมาตรการชั่วคราวเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ทั้งนี้ ได้ขอให้ทางการไทยประชาสัมพันธ์ให้แรงงานได้รับทราบข้อมูลข่าวสารการอย่างทั่วถึง พร้อมให้การคุ้มครองแรงงานให้เป็นไปตามสัญญาจ้างตามกฎหมายไทย ตลอดจนขอทราบข้อมูลจำนวนแรงงานต่างด้าวว่ามีจำนวนเท่าใด เพื่อประกอบการจัดเตรียมเครื่องมือ เจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ต่างๆ ในการเปิดศูนย์ให้คำปรึกษา และให้ฝ่ายไทยตรวจสอบความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว (Demand Letter) ของนายจ้างให้ตรงกับความต้องการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย รวมทั้งขอให้ตรวจสอบเอกสารแรงงานพม่าให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อป้องกันการสวมรอยจ้างแรงงาน นอกจากนี้ ยังขอให้ไทยมีมาตรการรองรับแรงงานเมียนมาที่เดินทางกลับประเทศช่วงที่ออก พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และจะเดินทางกลับเข้ามาทำงานอีกด้วย
นายวรานนท์ กล่าวว่า ฝ่ายไทยขอให้ทางการพม่าจัดตั้งศูนย์การพิสูจน์สัญชาติบริเวณชายแดนเพื่อออก CI ให้กับแรงงานที่จะเดินทางกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยให้นายจ้างไปรับเข้ามา ซึ่งฝ่ายไทยจะออกวีซ่าและอนุญาตให้ทำงานต่อไป โดยฝ่ายพม่ารับในหลักการ และขอให้หารือในรายละเอียดร่วมกันเพื่อให้เกิดผลสำเร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกำชับให้ดูแลแรงงานพม่าให้เหมือนกับคนไทย ซึ่งการจัดระเบียบแรงงานมีผลดีกับทั้งสองฝ่าย และปัจจุบันความร่วมมือระหว่างกันเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยสังเกตได้จากผลสำเร็จของการตรวจพิสูจน์สัญชาติ ออกเอกสาร CI และการนำเข้า MOU