อธิบดีกรมการจัดหางาน ร่อนหนังสือคำสั่งเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก “ต่างด้าว” ยื่นเปลี่ยนนายจ้าง ย้ำรวดเร็ว โปร่งใส ไม่ให้มีข้อครหาเรียกรับผลประโยชน์
วันนี้ (6 ก.ค.) นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ลงนามในหนังสือคำสั่งที่ รง 0316/ว57891 เรื่อง การอำนวยความสะดวกแก่นายจ้างและแรงงานต่างด้าวกรณีการขอเปลี่ยนนายจ้างเพื่อลดผลกระทบจากการบังคับใช้ พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ส่งถึงจัดหางานจังหวัดทุกแห่ง ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหางาน กทม. พื้นที่ 1-10 กำชับให้ดำเนินการรับแจ้งเปลี่ยนนายจ้างของแรงงานต่างด้าว 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. แรงงานต่างด้าวบัตรสีชมพูที่ได้รับการผ่อนผันให้ทำงานได้ถึง 1 พ.ย. นี้ และกลุ่มที่ให้ทำงานได้ถึง 31 มี.ค. 2561 หากเปลี่ยนนายจ้างใหม่ แต่พื้นที่เดิมก็แจ้งที่สำนักงานฯ ในพื้นที่เดิม ถ้าเปลี่ยนนายจ้างใหม่ พื้นที่ใหม่ให้แจ้งได้ที่สำนักงานฯ พื้นที่ใหม่ ไม่ต้องกลับมาทำที่พื้นที่เดิม
2. กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ มีพาสปอร์ต และระยะเวลาอนุญาตให้อยู่ในประเทศยังไม่หมดอายุ ดังนี้ กรณีเปลี่ยนนายจ้างแต่อยู่ในพื้นที่เดิม และใบอนุญาตทำงานยังไม่หมดอายุก็ให้รับแจ้ง กรณีนายจ้างใหม่ แต่ทำงานพื้นที่เดิมแต่ใบอนุญาตทำงานหมดอายุให้ถือเป็นการยื่นคำขอทำงานกับนายจ้างใหม่ กรณีนายจ้างใหม่ พื้นที่ใหม่ ใบอนุญาตทำงานยังไม่หมดอายุ ให้ยื่นเปลี่ยนนายจ้างที่สำนักงานในพื้นที่ใหม่ กรณีเปลี่ยนนายจ้างใหม่ จังหวัดใหม่ แต่ใบอนุญาตการทำงานหมดอายุให้ถือเป็นการยื่นขออนุญาตทำงานกับนายจ้างใหม่ ทั้งนี้ อายุการทำงานเป็นไปตามที่กำหนดในวีซ่า
3. กลุ่มแรงงานที่นำเข้าผ่านเอ็มโอยู แบ่งเป็นกลุ่มที่เข้ามาก่อน พ.ร.ก. การนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ. 2559 ให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับแรงงานในข้อ 2 ส่วนแรงงานที่นำเข้าผ่านเอ็มโอยูหลังบังคับใช้ พ.ร.ก. ดังกล่าวให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมการจัดหางานกำหนดคือเปลี่ยนเฉพาะกรณีนายจ้างเลิกจ้าง นายจ้างเสียชีวิต นายจ้างล้มละลาย นายจ้างทำทารุณกรรม หรือทำร้ายร่างกาย นายจ้างไม่ทำตามสัญญาจ้าง ลูกจ้างต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่อันตราย ทั้งนี้ การแจ้งเปลี่ยนนายจ้างทั้ง 3 กรณี นายจ้างต้องรับรองว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการจ้างแรงงานต่างด้าวแก่นายจ้างเดิม และให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส่ ไม่มีข้อครหาเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์
