xs
xsm
sm
md
lg

สมเด็จพระเทพฯทอดพระเนตร “บันไดนาค” 26 มิ.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ช่างสิบหมู่ตรวจงานศิลปาชีพสร้างบันไดนาคประดับพระเมรุมาศ เผย ชั้นที่ 1 และ 2 คืบหน้าร้อยละ 70 ชั้นที่ 3 นาคทรงเครื่องอยู่ระหว่างปั้นเก็บรายละเอียด ส่วนชั้น 4 พระเมรุมาศองค์ประธานกำลังขึ้นรูปลำตัวพญาอนันตนาคราช “สมชาย” ระบุ เป็นสถาปัตยกรรมวิจิตรยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ เตรียมเคลื่อนย้ายบันไดนาคชั้นที่ 1 ไปท้องสนามหลวง ให้สมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตร 26 มิ.ย. นี้

นายสมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างศิลปกรรมอาวุโส กลุ่มงานศิลปะประยุกต์และเครื่องเคลือบดินเผา สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เปิดเผยความคืบหน้าการจัดสร้างประติมากรรมประดับพระเมรุมาศในส่วนของบันไดนาค และประติมากรรมท้องไม้พระเมรุมาศองค์ประธานในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งกรมศิลปากร มอบหมายให้ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จ.อ่างทอง ดำเนินการจัดสร้าง ว่า การจัดสร้างราวบันไดและประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ มี อ.สุดสาคร ชายเสม เป็นผู้ออกแบบและควบคุมทุกขั้นตอนการจัดสร้าง โดยยึดหลักการออกแบบอย่างยิ่งใหญ่ให้สมพระเกียรติ เพื่อถวายแด่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ บันไดนาคชั้นที่ 1 นาคเศียรเดียว รูปแบบศิลปะรัตนโกสินทร์ ได้ต้นแบบจากเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช มีขนาดยาว 2.10 เมตร จำนวน 8 ตัว ซึ่งทำพิมพ์ หล่อไฟเบอร์ ขัดตกแต่ง ทำสีแล้ว อยู่ระหว่างประดับเลื่อมพร้อมลงยา

ส่วนบันไดนาค ชั้นที่ 2 “เหราพด” เป็นนาคสามเศียร ความยาว 2.50 เมตร อ้างอิงจากประติมากรรมนาคพบที่เตาวัดมะปรางค์ จ.สิงห์บุรี รูปแบบศิลปะสมัยสุโขทัย จำนวน 8 ตัว ขณะนี้กำลังทำพิมพ์ และทยอยหล่อไฟเบอร์ โดยในส่วนของบันไดนาคทั้ง 2 ชั้น คืบหน้ากว่าร้อยละ 70
ส่วนบันไดนาคชั้นที่ 3 นาคทรงเครื่อง นคร 5 เศียร พญาวาสุกรีนาคราช เป็นนาคสวมมงกุฎยอดชัย ความยาว 4.45 เมตร ต้นแบบจากราวบันไดนาควัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี ศิลปะสมัยอยุธยา จำนวน 8 ตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างปั้นต้นแบบ ใส่เครื่องประกอบ

นายสมชาย กล่าวว่า ขณะที่บันไดนาคชั้นที่ 4 ชั้นพระเมรุมาศองค์ประธานเป็นชั้นที่สำคัญที่สุด เป็นนาคนิรมิตพญาอนันตนาคราช มี 7 เศียร ต้นแบบจากปราสาทพระเทพบิดร ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ความยาว 5.80 เมตร จำนวน 8 ตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างการขึ้นรูปลำตัว โดยแต่ละเศียรเป็นหน้าเทวดาตามคัมภีร์พระนารายณ์บรรทมสินธุ์บนแท่นพญาอนันตนาคราช ซึ่ง อ.สุดสาคร กำลังร่างต้นแบบเศียรให้ลงตัว ภาพรวมความคืบหน้าในส่วนของบันไดนาค พร้อมกันนี้ ทยอยจัดสร้างบันไดชั้นส้าง เป็นนาคเศียรเดียว ความยาว 3.40 เมตร จำนวน 8 ตัว โดยส้างเป็นอาคารสี่เหลี่ยมหลังคายอดสำหรับพระสงฆ์สวดอภิธรรม ตั้งอยู่ 4 มุมเมรุ ออกแบบนาคโดยยึดปรัชญาธรรม ตัวพญานาคได้ถูกมกรกลืนกินเข้าไปเปรียบชีวิตที่ถูกเวลากลืนกินทุกขณะ รูปแบบจะคล้ายบันไดขึ้นธรรมมาสน์

“ในการจัดสร้างราวบันไดนาคประดับพระเมรุมาศในหลวง รัชกาลที่ ๙ ถือเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมไทยที่วิจิตรบรรจงมากที่สุด ยังไม่เคยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าบันไดนาคพระเมรุมาศสมัยใดยิ่งใหญ่เท่านี้ และเป็นครั้งแรกที่มีการประดับเลื่อม ซึ่งเป็นพลาสติกสังเคราะห์เคลือบสีสันต่างๆ นักเรียนศิลปาชีพตัดตามขนาดและลวดลายที่กำหนด ก่อนประดับเลื่อมเพื่อให้ประติมากรรมนาคมีความสวยงาม” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นักเรียนศูนย์ศิลปาชีพจะจัดสร้างเทพชุมนุมฐานไพทีนั่งราบ 27 แบบ หล่อจำนวน 108 องค์ ขนาดสูง 70 เมตร ประกอบด้วย ครุฑพนมนั่งราบ ยักษ์พนมนั่งราบ พานรพนมนั่งราบ และ เทวดาพนมนั่งราบ ขณะนี้ปั้นต้นแบบครุฑพนมและยักษ์พนมเสร็จแล้ว กำลังทำพิมพ์ ส่วนเทวดาพนมและพานรพนมอยู่ระหว่างปั้นต้นแบบ โดยทั้ง 27 แบบ รูปแบบจะไม่เหมือนกันเลยเพื่อใช้เป็นต้นแบบทั้ง 4 ด้าน ขณะนี้ อ.สุดสาคร ทยอยออกแบบให้ครบถ้วน งานประติมากรรมประดับพระเมรุมาศยังมีเทพพนมนั่งส้น จำนวน 28 องค์ ขนาดสูง 70 เมตร และครุฑยุดนาค จำนวน 28 องค์ ขนาดสูง 60 เซนติเมตร รวมถึงเทพนมแกะไม้กลีบลายพระโกศ ขนาดเล็กสูง 15 เซนติเมตร จำนวน 56 องค์ และขนาดใหญ่ สูง 19 เซนติเมตร จำนวน 24 องค์ ซึ่งนักเรียนศูนย์ศิลปาชีพ 2 แห่งทำทั้งหมด

พลเรือเอก สำเภา พลธร ผู้ดูแลศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จ.อ่างทอง กล่าวว่า การจัดสร้างประติมากรรมประดับพระเมรุมาศครั้งนี้ มีคณะครูและนักเรียนศิลปาชีพทั้ง 2 แห่ง ช่วยทำงานจำนวน 72 คน ซึ่งนักเรียนทุกคนพร้อมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเต็มใจและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่สำคัญ ยังได้ร่วมกันตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณถวายงานในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม กำหนดแผนงานว่า จะนำราวบันไดนาคชั้นที่ 1 ที่ดำเนินการแล้วเสร็จทั้ง 4 ด้าน จำนวน 8 ตัว ไปติดตั้งยังฐานราวบันไดพระเมรุมาศท้องสนามหลวงในวันที่ 25 มิ.ย. พร้อมๆ กับราวบันไดนาคชั้น 2 จำนวน 1 คู่ เพื่อให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตร ในวันที่ 26 มิ.ย. โดยคาดว่าการจัดสร้างราวบันไดทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในกลางเดือน ก.ย. พร้อมกับงานปั้นประติมากรรมอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย
//////
กำลังโหลดความคิดเห็น