สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ เปิดโซนสุขภาพดี มีทางเลือก ในงานเทศกาลทำดีหวังผล ‘Good Society Expo’ จับตาพฤติกรรมสุขภาพของคนไทยยุค 4.0 ดึง ปชช. ร่วมเรียนรู้สุขภาพดีเริ่มที่ตัวเรา
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เปิดโซนสุขภาพดี มีทางเลือก ในงานเทศกาลทำดีหวังผล : Good Society Expo โดยมีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. ร่วมจัดกิจกรรม พร้อมกับทอล์กโชว์แรงบันดาลใจของการมีสุขภาพที่ดีจากศิลปิน โย่ง อาร์มแชร์ และ เก้า จิรายุ ระหว่างวันที่ 9 - 11 มิ.ย. ณ บริเวณ Square B ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สสส. กล่าวว่า เพราะ 2 ใน 3 ของโรคที่เกิดขึ้นล้วนมาจากปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อม การทำงานของ สสส. จึงเน้นพฤติกรรมทางสุขภาพของคน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพราะมีผลต่อการกำหนดความเป็นไปทางสุขภาพ ซึ่งพฤติกรรมทางสุขภาพของคนไทยยุค 4.0 ที่น่าจับตาในแต่ละช่วงวัย พบว่า ในกลุ่มเด็กเล็กเริ่มติดหวานตั้งแต่ 2 - 5 ขวบ ผู้ปกครองเริ่มให้กินน้ำหวานหรือน้ำอัดลม มากกว่า 1 ครั้งแต่วันถึง 12% และ 30% ของเด็กเล็กมีพัฒนาการต่ำกว่าเกณฑ์โดยเฉพาะพัฒนาการด้านภาษา ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการใช้เทคโนโลยีทั้งสมาร์ทโฟน ไอแพดในการเลี้ยงดู ขณะที่กลุ่มวัยรุ่น มีพฤติกรรมขยับน้อยกว่าผู้สูงอายุ โดยวัยรุ่นเฉลี่ยมีกิจกรรมทางกายเพียง 1.14 ชั่วโมงต่อวัน แต่ใช้เวลาไปกับอินเทอร์เน็ต 6 ชั่วโมงต่อวัน และต้องการความรู้เรื่องเพศเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย โดยการสำรวจรายงานสุขภาพคนไทยพบว่า จำนวนคู่นอนเฉลี่ยของวัยรุ่นอยู่ที่ 5 คน ทั้งหญิงและชาย
ดร.ณัฐพันธุ์ กล่าวว่า ในกลุ่มวัยทำงาน วันนี้เราเห็นวัฒนธรรมการดื่มกาแฟตอนเช้า น้ำหวานกลางวัน และดินเนอร์ขนมหวานบิงชูตอนเย็น ซึ่ง สสส. ร่วมกับ ม.มหิดล ทำการสำรวจถนนสายเศรษฐกิจย่านสีลม อนุสาวรีย์ชัย เพื่อตรวจปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มชงหวาน 5 เมนูยอดฮิตพบว่า เพียง 1 แก้ว 250 มล. มีปริมาณน้ำตาลสูงถึง 10 - 15 ช้อนชา ซึ่งองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ควรปริโภคน้ำตาลในอาหารทุกชนิดไม่เกินวันละ 6 ช้อนชาเท่านั้น พฤติกรรมเหล่านี้เสี่ยงต่อโรคอ้วนลงพุง และเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน หัวใจ ความดัน ส่วนผู้สูงวัยเรายังขาดการรับมือในการเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยเฉพาะหลักประกันรายได้ยามเกษียณอายุ 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุ มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน หรือรายได้ต่ำกว่า 2,647 บาทต่อเดือน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ 95% มีโรคประจำตัวแต่ยังคงสามารถดำเนินชีวิตประวันได้ตามปกติ เมื่อเข้าใจพฤติกรรมทางสุขภาพของคนในแต่ละช่วงวัยที่ต่างไปจากเดิมจะสามารถออกแบบปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมให้คนในแต่ละวัยมีพฤติกรรมทางสุขภาพที่ดีขึ้นได้
สำหรับกิจกรรมในโซนสุขภาพดี มีทางเลือก สสส. ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ นำเสนอประเด็นอาหาร กิจกรรมทางกาย ปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ ได้แก่ เหล้า บุหรี่ อุบัติเหตุ และสุขภาวะทางเพศ รวมถึงนิทรรศการกลางที่เป็นงานสร้างเสริมสุขภาพในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา สิ่งสำคัญคือ เราอยากนำเสนอว่า “สุขภาพดีเริ่มได้ที่ตัวเรา และส่งต่อสุขภาพดีให้คนอื่น” จึงได้ออกแบบกิจกรรมที่ช่วยให้ประชาชนเกิดความตระหนักและร่วมสนุก เช่น กิจกรรมทดสอบปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม ของเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กิจกรรมสวนผักคนเมืองและการจำลองครัวขนาดเล็กและเครื่องครัวที่จำเป็นเพื่อสะท้อนวิถีชีวิตคนเมือง โดยเครือข่ายลดบริโภคเค็ม มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน Seeds Exchange ThaiPAN เครือข่ายกลุ่มเกษตรอินทรีย์
กิจกรรมชวนขยับวันละ 10,000 ก้าว โดยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโหลดแอปพลิเคชันนับก้าวเดิน และเริ่มขยับออกกำลังกายแล้วมารายงานผล หากเดินได้ครบ 10,000 ก้าว มารับรางวัล โดยการสนับสนุนของสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย และเครือข่ายคนไทยไร้พุง กิจกรรมเกมส์ถนนคนเมา โดยใส่แว่นจำลองการเมาแล้วลองเดินบนถนน และกิจกรรมอื่นๆ ที่ให้เห็นถึงอันตรายจากสุรา ข้อแนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย ทดสอบสุขภาพปอดดี๊ดี นวัตกรรมนวดกดจุดสะท้อนเท้าเลิกบุหรี่ จากภาคีเครือข่าย ได้แก่ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า มูลนิธิเมาไม่ขับ โครงการควบคุมยาสูบโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน รวมถึงการสื่อสารกับลูกอย่างไรเรื่องเพศ โดยแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.) นอกจากนี้ ยังมีงานจิตอาสากับโครงการนับเราด้วยคน ภายใต้ Campaign “ทำดีมีเหตุผล” ในกิจกรรม “แว่นตานำปัญญา” ที่จะบริจาคแว่นตาให้แก่เด็กในพื้นที่ที่ขาดแคลนแว่นตา เพื่อใช้ในการศึกษา เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการสร้างสรรค์สังคม นำไปสู่สังคมสุขภาวะ