นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในอีก 1 เดือน หลังจากนี้ กระทรวงการคลังจะสรุปมาตรการช่วยเหลือด้านสวัสดิการแก่ผู้มีรายได้น้อย ราว 14 ล้านคน ที่ได้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเอาไว้ โดยคาดว่าอาจจะต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้นราว 8 หมื่นล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 หมื่นล้านบาท ใช้ช่วยเหลือสวัสดิการค่าสาธารณูปโภค เช่น น้ำฟรี ไฟฟรี เป็นต้น และค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่างๆ ส่วนวงเงินอีก 5 หมื่นล้านบาท ที่จะมีการจัดตั้งกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือคนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนอาจใช้วิธีการแบบ Negative Income tax คือใครมีรายได้ ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท เท่าไหร่ ต่อเติมไปให้ได้ ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท แต่ต้องมีเงื่อนไข คือต้องเข้าโครงการฝึกอาชีพ หรืออย่างอื่น ไม่ใช่แจกฟรี ซึ่งแต่ละปีจะวัดผลด้วยว่าพ้นจากความยากจนได้กี่เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ช่วง 1 เดือนนี้ จะให้นักศึกษาลงพื้นที่ช่วยตรวจสอบผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐด้วยว่า แต่ละคนยังชีพอยู่อย่างไร มีครอบครัวอุปถัมภ์อยู่แล้วหรือไม่ เช่น ภรรยาได้รับเงินจากสามี ลูกได้รับเงินจากพ่อแม่ เป็นต้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชื่อว่า 14 ล้านคนนี้ เป็นยอดสูงสุดแล้ว และต่อไปคนจนจะต้องลดลง โดยเรื่องงบประมาณขึ้นกับความจำเป็น ตามที่นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ช่วยคนกลุ่มนี้
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือคนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนอาจใช้วิธีการแบบ Negative Income tax คือใครมีรายได้ ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท เท่าไหร่ ต่อเติมไปให้ได้ ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท แต่ต้องมีเงื่อนไข คือต้องเข้าโครงการฝึกอาชีพ หรืออย่างอื่น ไม่ใช่แจกฟรี ซึ่งแต่ละปีจะวัดผลด้วยว่าพ้นจากความยากจนได้กี่เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ช่วง 1 เดือนนี้ จะให้นักศึกษาลงพื้นที่ช่วยตรวจสอบผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐด้วยว่า แต่ละคนยังชีพอยู่อย่างไร มีครอบครัวอุปถัมภ์อยู่แล้วหรือไม่ เช่น ภรรยาได้รับเงินจากสามี ลูกได้รับเงินจากพ่อแม่ เป็นต้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชื่อว่า 14 ล้านคนนี้ เป็นยอดสูงสุดแล้ว และต่อไปคนจนจะต้องลดลง โดยเรื่องงบประมาณขึ้นกับความจำเป็น ตามที่นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ช่วยคนกลุ่มนี้