เล็งชง “บิ๊กตู่” ทำแผนแม่บท “ชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัย”

มูลนิธิราชประชาสมาสัยฯ เล็งขยาย “ชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัย” สร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ พร้อมจัดทำเป็นแผนแม่บทเสนอนายกฯ ต้นปี 60

นพ.ธีระ รามสูต ประธานมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า มูลนิธิราชประชาสมาสัยฯ ประสบความสำเร็จในการกำจัดโรคเรื้อนตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ช่วยให้ประเทศไทยลดอัตราผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ได้ก่อนเป้าหมายองค์การอนามัยโลกในปี 2563 คือ เพียง 1 ต่อประชากร 1 ล้านคน ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เคยมีพระราชกระแสรับสั่งว่า เมื่อกำจัดโรคเรื้อนสำเร็จแล้ว มูลนิธิฯ ไม่จำเป็นต้องสนับสนุนเฉพาะงานโรคเรื้อน แต่สามารถช่วยสนับสนุนแก้ปัญหาอื่นได้ตามความเหมาะสมและกำลัง มูลนิธิฯ จึงจัดตั้ง “โครงการจิตอาสาราชประชาสมาสัย” เพื่อช่วยสนับสนุนแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ

“ในปี 2553 ได้เริ่มดำเนินโครงการนำร่องที่ จ.พิษณุโลก และต่อมาได้มีการนำร่องขยายเพิ่มเติมไปยังภาคอื่นๆ ซึ่งต่อมาในปี 2557 ได้เกิดวิกฤตทางการเมืองรุนแรง มูลนิธิราชประชาสมาสัยฯ จึงเห็นว่าสามารถใช้แนวคิดราชประชาสมาสัยเพื่อช่วยแก้ปัญหาการเมืองที่เปรียบเสมือนโรคเรื้อนได้ และทำให้ประเทศมีความเข้มแข็ง ด้วยการดึงให้ประชาชนภาคส่วนต่างๆ เข้ามีส่วนร่วม ทำให้เกิดการขยายจัดตั้งชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัยประจำตำบลและองค์กร โดยจับมือกับร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา” นพ.ธีระ กล่าว

นพ.ธีระ กล่าวว่า การดำเนินงานร่วมกับ สปสช. และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เริ่มจากแกนนำพยาบาลวิชาชีพทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันจัดตั้งชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัย ซึ่งต่างเป็นผู้ที่ได้ทำงานจิตอาสาอยู่แล้วในการดูแลผู้ป่วย รวมทั้งชมรมอาสาสมัครที่มีอยู่แล้ว อาทิ ชมรมมิตรภาพบำบัด อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นต้น โดยในช่วงปี 2553 - 2557 ได้มีการจัดตั้งชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัย 41 ชมรม มีจำนวนจิตอาสา 2,829 คน ซึ่งภายหลังจากที่มูลนิธิได้ร่วมกับ สปสช. ในปี 2558 - 2559 ได้มีการขยายจัดตั้งชมรมจิตอาสาฯ เพิ่มขึ้น 192 ชมรม มีจำนวนจิตอาสา 10,130 คน ส่งผลภาพรวมการดำเนินโครงการจัดตั้งชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัย ในปี 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 233 ชมรม จำนวนจิตอาสา 12,959 คน

“มูลนิธิฯ เตรียมที่จะขยายการจัดตั้งชมรมเพิ่มขึ้นในปีต่อไป ซึ่งความหวังในความสำเร็จอยู่ที่ สปสช. ที่จะร่วมเป็นแกนนำขับเคลื่อน ซึ่งโครงการนี้ได้ผ่านการตกผลึกแล้ว และในเดือนมกราคม 2560 ทางมูลนิธิฯ จะทำเป็นโครงการเป็นแผนแม่บทแห่งชาติ เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ในการสนับสนุนเพื่อให้มีการขยายโครงการไปทั่วประเทศ” นพ.ธีระ กล่าว

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา รักษาการเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ที่ผ่านมา สปสช. ทั้งส่วนกลางและ สปสช. ทั้ง 13 เขต ได้ให้การสนับสนุนโครงการขยายจัดตั้งชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นส่วนที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศได้โดยใช้แนวคิดราชประชาสมาสัย และความสำเร็จนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นในการสนับสนุนการดำเนินงานของชมรม โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ นอกจากนี้ ยังต้องมีการสร้างขวัญกำลังใจกับจิตอาสา เพื่อเป็นกำลังใจในการติดทองหลังพระ ซึ่งที่ผ่านมาในส่วนพื้นที่ได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ในส่วนกลาง สปสช. และมูลนิธิฯ คงต้องเพิ่มเติมในส่วนนี้ รวมทั้งต้องมีการวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของโครงการเพื่อนำไปสู่การพัฒนาในเชิงระบบต่อไป