พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงมาตรการปรับลดพื้นที่ปลูกข้าวครั้งที่ 2 ช่วงหน้าแล้ง ตามแผนข้าวครบวงจรว่า ตนให้นโยบายกรมพัฒนาที่ดินไปดำเนินการมีเป้าหมายส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชปุ๋ยสดแทนข้าว ในพื้นที่ 200,000 ไร่ บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ใน 19 จังหวัด โดยเกษตรกรปลูกพืชปุ๋ยสด เช่น ปอเทือง พืชตระกูลถั่ว เพื่อบำรุดินในที่ของตนเอง และส่วนหนึ่งเก็บเมล็ดพันธุ์ขายคืนให้กับกรมพัฒนาที่ดิน โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าไถเตรียมดิน ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นเตรียมไถและหว่าน คาดว่าจะเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ได้ในเดือน มี.ค.60
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวต่อว่า จะมีผลผลิตออกมาไม่น้อยกว่า 6,000 ตัน ที่กรมพัฒนาที่ดินรับซื้อเพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรใช้ปรับปรุงดินก่อนฤดูกาลปลูกข้าวปี 60 ต่อไป ผลที่คาดว่าจะได้รับ เกษตรกรลดการทำนา พักดิน บำรุงดิน ด้วยพืชปุ๋ยสด และมีรายได้จากการขายเมล็ดพันธุ์ให้รัฐ
นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ลงไปด้วย เพื่อจูงใจให้เกษตรกรกล้าตัดสินใจในการปรับเปลี่ยน เพราะทำให้เกษตรกรอยู่ได้ในช่วงการปรับเปลี่ยน ซึ่งเป็นความท้าทายทั้งของเจ้าหน้าที่รัฐ และเกษตรกร เชื่อมั่นว่าหากเรานำแนวทางพระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา จะสำเร็จแน่นอน โดยเกษตรกรกล้าตัดสินใจบนพื้นฐานความมั่นใจที่ภาครัฐให้การสนับสนุน และน้อมนำแนวทางพระราชดำริการพึ่งพาตนเอง มีเหตุมีผล
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ในภาพรวมเกษตรกรให้ความสนใจดีมาก โดยเฉพาะในพื้นที่การปรับเปลี่ยนจากทำนาไปทำกิจกรรมอื่นหากมีน้ำพอ จะสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรได้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลในชุดปัจจุบันเริ่มดำการทำแผนบูรณาการน้ำ ตั้งแต่การทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ ปี 2558 - 2569 ซึ่งตนในฐานะประธานกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้มีส่วนผลักดันอย่างมาก ในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา สามารถเพิ่มพื้นที่ที่เข้าถึงระบบน้ำได้ 1.72 ล้านไร่ ในปี 60 จะดำเนินการอีก 0.48 ล้านไร่ และหากสามารถบูรณาการกับงบกลาง 190,000 ล้านบาท ที่แต่ละจังหวัดจะเสนอดำเนินการในปีนี้ได้ จะดำเนินการเพิ่มเติมอีก 1.00 ล้านไร่ รวมทั้งระบบชลประทานในพื้นที่ทำเกษตรแปลงใหญ่ 2 พันแปลง และเปิดเกษตรทฤษฎีใหม่ 7 หมื่นแปลง แจกที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ให้เกษตกร ผู้ยากไร้ใน 5 จังหวัด ที่เรียกคืนมาตามมาตรา 44 เช่น จ.กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี ชุมพร กระบี่ และ จ.นครราชสีมา ต้นปี 60 งานปฏิรูปภาคเกษตรด้านต่างๆ ที่เข้ามาวางรากฐานทำมาต่อเนื่องจะเกิดผลจับต้องได้เป็นรูปธรรมชัดเจน ทั้งหมดถึงมือเกษตรกรมีรายได้ดีขึ้น
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวต่อว่า จะมีผลผลิตออกมาไม่น้อยกว่า 6,000 ตัน ที่กรมพัฒนาที่ดินรับซื้อเพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรใช้ปรับปรุงดินก่อนฤดูกาลปลูกข้าวปี 60 ต่อไป ผลที่คาดว่าจะได้รับ เกษตรกรลดการทำนา พักดิน บำรุงดิน ด้วยพืชปุ๋ยสด และมีรายได้จากการขายเมล็ดพันธุ์ให้รัฐ
นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ลงไปด้วย เพื่อจูงใจให้เกษตรกรกล้าตัดสินใจในการปรับเปลี่ยน เพราะทำให้เกษตรกรอยู่ได้ในช่วงการปรับเปลี่ยน ซึ่งเป็นความท้าทายทั้งของเจ้าหน้าที่รัฐ และเกษตรกร เชื่อมั่นว่าหากเรานำแนวทางพระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา จะสำเร็จแน่นอน โดยเกษตรกรกล้าตัดสินใจบนพื้นฐานความมั่นใจที่ภาครัฐให้การสนับสนุน และน้อมนำแนวทางพระราชดำริการพึ่งพาตนเอง มีเหตุมีผล
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ในภาพรวมเกษตรกรให้ความสนใจดีมาก โดยเฉพาะในพื้นที่การปรับเปลี่ยนจากทำนาไปทำกิจกรรมอื่นหากมีน้ำพอ จะสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรได้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลในชุดปัจจุบันเริ่มดำการทำแผนบูรณาการน้ำ ตั้งแต่การทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ ปี 2558 - 2569 ซึ่งตนในฐานะประธานกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้มีส่วนผลักดันอย่างมาก ในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา สามารถเพิ่มพื้นที่ที่เข้าถึงระบบน้ำได้ 1.72 ล้านไร่ ในปี 60 จะดำเนินการอีก 0.48 ล้านไร่ และหากสามารถบูรณาการกับงบกลาง 190,000 ล้านบาท ที่แต่ละจังหวัดจะเสนอดำเนินการในปีนี้ได้ จะดำเนินการเพิ่มเติมอีก 1.00 ล้านไร่ รวมทั้งระบบชลประทานในพื้นที่ทำเกษตรแปลงใหญ่ 2 พันแปลง และเปิดเกษตรทฤษฎีใหม่ 7 หมื่นแปลง แจกที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ให้เกษตกร ผู้ยากไร้ใน 5 จังหวัด ที่เรียกคืนมาตามมาตรา 44 เช่น จ.กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี ชุมพร กระบี่ และ จ.นครราชสีมา ต้นปี 60 งานปฏิรูปภาคเกษตรด้านต่างๆ ที่เข้ามาวางรากฐานทำมาต่อเนื่องจะเกิดผลจับต้องได้เป็นรูปธรรมชัดเจน ทั้งหมดถึงมือเกษตรกรมีรายได้ดีขึ้น
