เอ็น.ซี.ฯ เลื่อนเปิด 2 โครงการใหม่โซนตะวันออก และตะวันตก กทม. ไปเปิดขายปลายไตรมาสแรกปี 60 ชี้ตลาดยังชะลอตัวจากผลกระทบเศรษฐกิจ-แบงก์เข้มปล่อยกู้รายย่อย แจงยอดขาย-รายได้ 9 เดือนต่ำกว่าเป้า หวังแคมเปญ “ฟรีทุกค่าใช้จ่าย-อยู่ฟรี 6 เดือนแรก-ลดสูงสุด 2 ล้านบาท” เร่งการตัดสินใจลูกค้าซื้อคอนโดฯ-บ้านปลายปี ลุ้นยอดขาย 2,600 ล้านบาท รายได้ 2,000 ล้านบาทเข้าเป้า เผยปีหน้าเน้นบริหารสต๊อกสินค้า คาดยอดปฏิเสธสินเชื่อในระบบจะเริ่มดีขึ้น หลังแบงก์ต้องขยับหาพอร์ตลูกค้าเพิ่ม
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮาส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH กล่าวว่า บริษัทได้เลื่อนเปิด 2 โครงการแนวราบที่จะเปิดปลายปี 2559 ขยับไปทำการตลาดช่วงปลายไตรมาสแรกปี 2560 ได้แก่ โครงการทาวน์เฮาส์ผสมบ้านเดี่ยวในโซนตะวันออกของ กทม. และโครงการบ้านเดี่ยวผสมทาวน์เฮาส์ในทำเลย่านปิ่นเกล้า-พุทธมณฑล เนื่องจากสถานการณ์ตลาดในช่วงปลายปียังคงชะลอตัวจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ ประกอบกับกำลังซื้อ และความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อยังมีอยู่ต่อเนื่อง
ทำให้ในปี 59 บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 10 โครงการ มีสินค้าที่อยู่อาศัยรอการขาย (สต๊อก) ที่พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าในช่วงปลายปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 600-700 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อผลักดันให้ยอดขายได้ตามเป้า ทางเอ็น.ซี. ได้ส่งแคมเปญแรงส่งท้ายปี เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อบ้าน ได้แก่ กลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเนทูเรซ่า พัทยา คอนโดมิเนียม กับแคมเปญ Big Gift : โปรแรงส่งท้ายปี ทุกค่าใช้จ่าย 0 บาท และเมื่อได้อนุมัติสินเชื่อโดยมีระยะเวลาสัญญาเงินกู้ 30 ปี และเข้าอยู่แล้ว ทางโครงการจะผ่อนให้ลูกค้าเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะจูงใจกลุ่มลูกค้าที่ผ่อนเช่าอยู่ ได้ตัดสินใจซื้อโครงการของเอ็น.ซี.ฯ
โครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ นีว่า (ทาว์เฮาส์) ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท หน้ากว้าง 6 เมตร รับโปรฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน และไอโฟน 7 ฟรี
และกลุ่มราคา 5-10 ล้านบาทขึ้นไป ได้แก่ โครงการ เอ็นซี ออน กรีน ฌาร์ม บ้านหรูติดสนามกอล์ฟ ทำเลลำลูกกาคลอง 5 ให้ส่วนลดราคาสูงสุด 2 ล้านบาท จากราคากว่า 16 ล้านบาท เหลือประมาณ 14 ล้านบาท ซึ่งเหลืออยู่ประมาณ 3-4 หลัง และในปีหน้า เฟสใหม่ในทำเลที่ดีขึ้น จะมีการปรับราคาขึ้นมากกว่า 5%
“ปัจจุบัน เอ็น.ซี.ฯมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิกในมือ 10,000 ราย การทำแคมเปญกับกลุ่มลูกค้าเดิมเพื่อช่วยบอกต่อลูกค้าใหม่ จะทำให้ได้ลูกค้าที่มีความต้องการซื้อที่แท้จริง และได้ลูกค้ากำลังซื้อสูงโอกาสในการปิดการขายก็สูงไปด้วย และยอดขายที่เกิดขึ้นจะส่งถึงการโอนกรรมสิทธิ์ภายในต้นปี 60 ด้วย อย่างไรก็ตาม จากการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ และกำลังตลอดทั้งปี คาดว่าอสังหาฯ จะซึมๆ โดยยอดขายปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ 2,600 ล้านบาท อาจต่ำกว่า 5-10% ส่วนรายได้ 2,000 ล้านบาท จะต้องมาประเมินกันอีกครั้ง แต่ทั้งปีบริษัทจะยังมีกำไรอยู่”
อนึ่ง ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ มีกำไรสุทธิ 14.77 ล้านบาท หรือมีผลกำไรสุทธิลดลง 81.88 ล้านบาท หรือลดลง 84.72 % เนื่องจากรายได้รวมที่ลดลง โดยบริษัทมีรายได้รวมที่ 1,097.83 ล้านบาท ลดลง 30.97%
นายสมนึก กล่าวถึงแผนการปรับตัวของธุรกิจในปี 2560 ว่า ต้องเน้นไปในเรื่องการบริหารบ้านพร้อมอยู่ (สต๊อก) ให้เป็นไปตามภาวะของตลาด และกำลังซื้อ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ผู้ประกอบการหลายค่ายจะหันมาทำตลาดโครงการแนวราบมากขึ้น หลังจากสต๊อกโครงการคอนโดฯ ถูกดูดซับออกไป ทั้งนี้ ขนาดของสต๊อกบ้านที่จะพร้อมโอนของเอ็น.ซี. ที่เหมาะสมอยู่ระดับ 1,000 ล้านบาท ส่วนสต๊อกที่อยู่ในมือมีประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ
“ปีหน้าเรายังห่วงเรื่องกำลังซื้อ และการแบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ก็จะสะท้อนไปถึงกำลังซื้อในระยะสั้น ทำให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ถูกกระทบ แต่เราก็ยังหวังว่า อารมณ์การปฏิเสธสินเชื่อจะไม่เร็ว และเชื่อแบงก์ต้องแข่งขันเพิ่มพอร์ตลูกค้า แต่เราก็เตรียมรับมือไว้ หากสถานการณ์ไม่ดี เอ็น.ซี. จะชะลอควบคุมสต๊อกสินค้าให้เหมาะสมกับสภาพตลาด”.