แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้า PPTC ขณะโรงไฟฟ้าขยะจ่ายอยู่ระหว่างก่อสร้าง และขอวงเงินกู้จากแบงก์ คาดขายไฟฟ้าต้นปี 60 เผยอยู่ระหว่างเจรจากับโรงไฟฟ้าผลิตพลังงาน Cogeneration เพิ่มอีก 2 แห่ง และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นอีกหลายแห่ง เตรียมชงบอร์ด และที่ปรึกษาการเงินเพื่อพิจารณาการลงทุน ธ.ค.นี้
รศ.ดร.อิทธิชัย อรุณศรีแสงไชย ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการลงทุนในธุรกิจพลังงานของบริษัทฯ ว่า ขณะนี้ บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า PPTC ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กระบบ Cogeneration กำลังการผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ คิดเป็นสัดส่วน 21.5% โดยวางมัดจำไปแล้ว 100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะส่งมอบหุ้นครบถ้วนทั้งหมดภายในสิ้นปี หลังจากได้อนุมัติให้โอนหุ้นจากสถาบันการเงินแล้ว และโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ R-EEP ที่ตั้งอยู่แพรกสา กำลังการผลิตรวม 9.9 เมกะวัตต์ คิดเป็นสัดส่วน 20% จ่ายเงินครบแล้ว คาดว่าจะขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในต้นปี 2560 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และได้รับอนุมัติวงเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งแล้ว
ขณะความคืบหน้าของการเจรจาโครงการใหม่ๆ ที่กำลังดำเนินการ คือ บริษัทฯ อยู่ในการระหว่างเจรจากับโรงไฟฟ้าผลิตพลังงาน Cogeneration เพิ่มอีก 2 แห่ง รวมแล้วประมาณ 240 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่นอีกหลายแห่ง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการศึกษารายละเอียด และรวบรวมข้อมูล โดยเตรียมนำข้อมูลที่ได้มาเสนอให้คณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) และที่ปรึกษาทางด้านการเงินเพื่อพิจารณาการลงทุนต่อไปภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้
รศ.ดร.อิทธิชัย อรุณศรีแสงไชย ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการลงทุนในธุรกิจพลังงานของบริษัทฯ ว่า ขณะนี้ บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า PPTC ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กระบบ Cogeneration กำลังการผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ คิดเป็นสัดส่วน 21.5% โดยวางมัดจำไปแล้ว 100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะส่งมอบหุ้นครบถ้วนทั้งหมดภายในสิ้นปี หลังจากได้อนุมัติให้โอนหุ้นจากสถาบันการเงินแล้ว และโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ R-EEP ที่ตั้งอยู่แพรกสา กำลังการผลิตรวม 9.9 เมกะวัตต์ คิดเป็นสัดส่วน 20% จ่ายเงินครบแล้ว คาดว่าจะขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในต้นปี 2560 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และได้รับอนุมัติวงเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งแล้ว
ขณะความคืบหน้าของการเจรจาโครงการใหม่ๆ ที่กำลังดำเนินการ คือ บริษัทฯ อยู่ในการระหว่างเจรจากับโรงไฟฟ้าผลิตพลังงาน Cogeneration เพิ่มอีก 2 แห่ง รวมแล้วประมาณ 240 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่นอีกหลายแห่ง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการศึกษารายละเอียด และรวบรวมข้อมูล โดยเตรียมนำข้อมูลที่ได้มาเสนอให้คณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) และที่ปรึกษาทางด้านการเงินเพื่อพิจารณาการลงทุนต่อไปภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้