xs
xsm
sm
md
lg

12 สัญญาณบอกว่าคุณมีฮอร์โมนไม่สมดุล / ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมื่อเรามีอาการบวม ระคายเคือง ไม่สบายตัว อาจเป็นเพราะสาเหตุมาจากการมีฮอร์โมนไม่สมดุล ฮอร์โมนเป็นเสมือนสารเคมีที่สื่อสารส่งไปยังเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานอย่างปกติและสมดุล เช่น ในระหว่างช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือน ช่วงมีประจำเดือน หรือในช่วงตั้งครรภ์ บางครั้งยาบางประเภทส่งผลต่อสุขภาพทำให้ฮอร์โมนของเราขึ้นและลงได้ด้วย สัญญาณเตือนว่าคุณมีฮอร์โมนไม่สมดุลมีดังนี้

1. ความผิดปกติของรอบเดือน โดยปกติแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีรอบเดือนในทุกๆ 21 ถึง 35 วัน แต่หากประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้าง นั่นอาจหมายความว่า เรามีฮอร์โมนที่น้อยเกินไปหรือมากเกินไป ฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสโตรโรนเป็นตัวควบคุมเรื่องเหล่านี้ หากเราอยู่ในช่วงอายุ 40 - 50 ปีต้นๆ สาเหตุอาจเป็นเพราะเรากำลังอยู่ในช่วงหมดประจำเดือน เราควรสังเกตอาการผิดปกติของการมีประจำเดือน เช่น PCOS เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการผิดปกติของต่อมไร้ท่อ หรือฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติมาบ้างไม่มาบ้าง และมีลักษณะของฮอร์โมนเพศชายสูง ทำให้มีขนดก หรือมีสิวมากกว่าผู้หญิงโดยทั่วไป ซึ่งควรรีบปรึกษาแพทย์

2. มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ หากเรามีปัญหาเรื่องการนอนหลับไม่เพียงพอ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพราะโปรเจสโตรโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตออกมาจากรังไข่ ซึ่งจะช่วยให้เรานอนหลับสบาย แต่หากฮอร์โมนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ จะส่งผลต่อการนอนหลับ การมีเอสโตรเจนที่ต่ำสามารถทำให้มีอาการรู้สึกวูบวาบ หนาวๆ ร้อนๆ หรือมีอาการเหงื่อออกในเวลากลางคืน ส่งผลให้ยากต่อการนอนหลับพักผ่อน

3. เป็นสิว ปกติการมีสิวในช่วงก่อนมีประจำเดือนนั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากเป็นสิวอยู่เป็นประจำ และไม่หายอาจเป็นปัญหาของเรื่องฮอร์โมนแอนโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ส่งผลให้ต่อมไร้ท่อมีการทำงานผิดปกติและต่อมไขมันมีผลต่อเซลล์ของผิวหนังและรูขุมขนทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้

4. หลงๆ ลืมๆ ฮอร์โมนสามารถจะเปลี่ยนเอสโตรเจนและโปรเจสโตรโรน ทำให้มีความจำที่หลงๆ ลืมๆ ได้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าเอสโตรเจนจะทำให้การควบคุมในสมองและสารด้านสื่อประสาทซึ่งมีผลกระทบต่อสมาธิและความจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้หมดประจำเดือนจะมีอาการหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับระดับฮอร์โมนและต่อมไทรอยด์ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หากมีปัญหาเรื่องความจำที่หลงๆ ลืมๆ

5. ปวดท้อง หากเรามีฮอร์โมนที่สูงและต่ำเกินกว่าปกติ จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในระบบการย่อยอาหารบางครั้งท้องเสีย มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หรือบวม และมีอาการที่รุนแรงก่อน หรืออยู่ในช่วงมีประจำเดือน ทำให้มีอาการเครียดและมีสิวด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่าระดับฮอร์โมนไม่สมดุล

6. เหนื่อยและอ่อนเพลียตลอดเวลา หากเรามีความรู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลีย นั่นเป็นอาการที่เห็นได้ชัดของการมีฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ที่มีทำงานน้อยลงจะทำให้ร่างกายเหนื่อยอ่อนและพลังงานลดลง การตรวจเลือดเพื่อค้นหาความผิดปกติของต่อมไทรอยด์จะช่วยให้เราทราบสาเหตุเพื่อรับการรักษาได้ทันเวลา

7. มีความเครียดและอารมณ์แปรปรวน นักวิจัยเชื่อว่าการลดลงของการเปลี่ยนแปลงระดับของฮอร์โมนจะเป็นสาเหตุที่ส่งผลต่อด้านอารมณ์ ทำให้มีอาการหงุดหงิดเครียดง่าย เพราะเอสโตรเจนเป็นกุญแจสำคัญที่ส่งผลต่อสมองและต่ออารมณ์ด้วย

8. มีน้ำหนักเพิ่ม เมื่อสารเอสโตรเจนมีระดับน้อยลง ทำให้มีความอยากรับประทานอาหารมากขึ้น ดังนั้นการมีฮอร์โมนในระดับไม่สมดุล จะส่งผลต่อระดับความหิวที่ทำให้กินมากขึ้นจนมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้

9. ปวดศีรษะ อาการปวดศีรษะอาจมีสาเหตุมาจากหลายประการ แต่หากคุณผู้หญิงมี ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงสามารถเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดศีรษะได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาก่อนมีประจำเดือน อาการปวดศีรษะที่เป็นประจำและเกิดขึ้นเป็นประจำในแต่ละเดือนสามารถเป็นตัวที่ระบุได้ว่าร่างกายมีฮอร์โมนในระดับที่ไม่สมดุล

10. ช่องคลอดแห้ง หากมีอาการหากเราช่องคลอดแห้ง ขาดน้ำหล่อลื่น อาจเป็นสาเหตุที่ปกติในบางครั้ง แต่ถ้าหากเกิดขึ้นบ่อยและมีความปกติในบริเวณนั้น อาจเป็นสาเหตุของการมีเอสโตรเจนต่ำ เพราะเมื่อเอสโตรเจนลดลงจะทำให้เกิดการไม่สมดุลและขาดน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดทำให้มีอาการแห้งได้

11. สูญเสียความต้องการทางเพศ หลายคนเชื่อว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะเป็นฮอร์โมนของผู้ชายเท่านั้นแต่ร่างกายของผู้หญิงมีฮอร์โมนนี้ด้วย และเมื่อเทสโทสเตอโรนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติจะทำให้เรามีความสนใจหรือมีความต้องการทางเพศลดน้อยลง

12. หน้าอกมีการเปลี่ยนแปลงการลดลงของเอสโตรเจน จะทำให้หน้าอกหรือเต้านมมีการเปลี่ยนแปลงได้ การเพิ่มฮอร์โมนจะทำให้เนื้อเยื่อกลับมายืดหยุ่นเหมือนเดิมได้

ดังนั้น หากเราสำรวจว่ามีตุ่ม หรือก้อนเนื้อบริเวณเต้านมให้เราปรึกษาแพทย์ทันที การมีระดับฮอร์โมนที่ต่ำขึ้นๆ ลงๆ ไม่สมดุลจะส่งผลเสียต่อสภาพร่างกาย และจิตใจได้ ดังนั้น หากมีอาการดังกล่าวมาข้างต้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาได้ทันเวลา เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอค่ะ

ข้อมูลอ้างอิง
Webmd.com
กำลังโหลดความคิดเห็น