xs
xsm
sm
md
lg

พัฒนา “เจลลี่โภชนา” ตามพระราชดำรัส “ในหลวง ร.๙” ช่วยผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมการแพทย์เดินหน้าพัฒนา “เจลลี่โภชนา” ตามพระราชดำรัส “ในหลวง ร.๙” อาหารผู้ป่วยต้องดีและอร่อย เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก

นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ปี 2557 พบว่า มะเร็งริมฝีปากและช่องปาก จัดอยู่ใน 10 อันดับแรกของโรคมะเร็ง โดยประชากรไทย 100,000 คน จะพบผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอ 16 คน เสียชีวิตถึง 7 คน และกว่า 60% ของผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป สำหรับการรักษาหากผ่าตัดไม่ได้ จะต้องให้เคมีบำบัดพร้อมกับการฉายรังสี คนไข้ส่วนใหญ่ก้อนเนื้อจะยุบลง แต่เกิดอาการแทรกซ้อนในระหว่างการรักษา คือ การอักเสบต่อเนื้อเยื่อบริเวณเยื่อบุในช่องปาก เหงือก และผิวหนัง บางครั้งจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา การให้เคมีบำบัดและการฉายรังสีจะใช้ระยะเวลา 7 สัปดาห์ ในช่วงนี้ผู้ป่วย จะรับประทานอาหารได้น้อยลง ขาดพลังงาน แคลอรีไม่พอ ดื่มน้ำไม่ได้ และมีปัญหาเรื่องตัวแห้ง ในอดีตจะได้รับอาหารทางสายยางเข้าไปทางจมูกเพื่อให้อาหารเหลวลงไปถึงกระเพาะอาหาร แต่วิธีการนี้สร้างความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้ป่วย ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงห่วงใยผู้ป่วยที่กลืนอาหารไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งช่องปาก รวมทั้งผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการเคี้ยวและการกลืน นำไปสู่อาหารพระราชทาน “เจลลี่โภชนา” นวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ทำให้คุณภาพชีวิตในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งและโรคอื่นๆ ในช่องปากดีขึ้น ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

“ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีลักษณะนิ่ม กลืนง่าย และมีสารอาหารให้พลังงานที่เหมาะสม โดยเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2554 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะกรรมการมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะผู้วิจัยเข้าเฝ้ากราบบังคมทูลผลการดำเนินงาน และถวายรายงานโครงการนวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก พร้อมทูลเกล้าฯ ถวายผลิตภัณฑ์ “เจลลี่โภชนา” พระองค์ทรงซักถามและมีพระราชวินิจฉัยว่า “อาหารผู้ป่วยดีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องอร่อยด้วย เพราะผู้ป่วยมีความทุกข์ทางร่างกายอยู่แล้ว” ซึ่งนอกจากรสมะม่วงและรสชานมแล้ว ควรจะมีเจลลี่รสต้มยำ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เจลลี่มีรสชาติที่หลากหลาย ผู้ป่วยสามารถรับประทานได้อย่างต่อเนื่อง

นพ.ธนเดช สินธุเสก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี กล่าวว่า รพ.มหาวชิราลงกรณธัญบุรีเป็นหน่วยงานเฉพาะทางโรคมะเร็งที่มีความเป็นเลิศด้านวิชาการ มุ่งเน้นมาตรฐานความปลอดภัย ใส่ใจคุณภาพชีวิต โดยรักษาคนไข้ที่เป็นโรคมะเร็งในทุกอวัยวะ ด้วยการฉายรังสีและเคมีบำบัด ทั้งนี้ โรคมะเร็งศีรษะและลำคอที่พบว่าเป็นบ่อยในคนไทย เช่น มะเร็งโพรงหลังจมูก มะเร็งในช่องปาก และอาจเป็นได้หลายตำแหน่ง เช่น ริมฝีปาก ลิ้น ฐานลิ้น กระพุ้งแก้ม เหงือก จึงได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสที่มีความห่วงใยต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งช่องปาก โดยนำเจลลี่โภชนา อาหารพระราชทานมาให้บริการผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ตามพระราชประสงค์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารเพียงพอและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ผลการศึกษานำร่อง ภาวะโภชนาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งศีรษะและลำคอ โดยรวบรวมข้อมูลจากแฟ้มประวัติผู้ป่วย 11 ราย ที่มารับรังสีรักษาแบบระยะยาว พบว่า ภายใน 3 สัปดาห์ หลังรับรังสีผู้ป่วยจะมีน้ำหนักตัวลดลงประมาณ 3 - 4 กิโลกรัม โดยน้ำหนักที่ลดรุนแรงสัมพันธ์กับการอักเสบเป็นแผลในปาก ในขณะที่ผลการประเมินประสิทธิผลของเจลลี่โภชนาต่อภาวะโภชนาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งศีรษะและลำคอ จำนวน 68 ราย พบว่าผู้ป่วยที่รับประทานเจลลี่โภชนาต่อเนื่อง มีน้ำหนักตัวลดลงน้อยกว่าผู้ที่ไม่รับประทานเจลลี่โภชนา หรือรับประทานไม่ต่อเนื่อง และการประเมินประสิทธิผลของเจลลี่โภชนาต่อคุณภาพชีวิต พบว่าผู้ป่วยที่ไม่รับประทานเจลลี่โภชนามีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงกว่าผู้ป่วยที่รับประทานเจลลี่โภชนาอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ การพัฒนาเจลลี่โภชนาในโครงการต่อไปจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เจลลี่โภชนาให้มีรสชาติที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้สึกจำเจและเกิดความอยากอาหาร โดยพัฒนารสชาติอื่นๆ เช่น รสข้าวมันไก่ แกงมัสมั่น แกงส้ม เป็นต้น รวมถึงพัฒนาให้มีรสธรรมชาติ เช่น รสข้าว รสนม นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ชนิดถ้วยแบบปลอดเชื้อ ซึ่งจะสะดวกต่อการรับประทาน และในอนาคตจะพัฒนานวัตกรรมอาหารต้านมะเร็งช่องปากอีกด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น