xs
xsm
sm
md
lg

กินเหล้า-สูบบุหรี่ เสี่ยงมะเร็งช่องปาก 15 เท่า แผลช่องปากเกิน 3 สัปดาห์ บ่งบอกอาการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมการแพทย์เผย เพศชายป่วย “มะเร็งช่องปาก” มากกว่าเพศหญิง เหตุดื่มเหล้า สูบบุหรี่ประจำ เสี่ยงมากกว่าคนปกติ 15 เท่า ชี้ แผลช่องปากรักษาไม่หายเกิน 3 สัปดาห์บ่งบอกอาการของโรค

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทยอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 จากสถิติปี พ.ศ. 2554 พบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ จำนวน 112,392 คน เป็นเพศชาย 54,586 คน เพศหญิงพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 57,806 คน โดยโรคมะเร็งที่พบบ่อย 5 อันดับแรก ได้แก่ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักและมะเร็งปากมดลูก ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังสามารถพบมะเร็งในอวัยวะอื่น ๆ โดยเฉพาะบริเวณในช่องปากที่พบได้บ่อยขึ้น ซึ่งมะเร็งชนิดนี้มักเกิดบริเวณ ลิ้น กระพุ้งแก้ม ริมฝีปาก เหงือก เพดานปาก พื้นปากใต้ลิ้น ลิ้นไก่ ต่อมทอนซิลและส่วนบนของลำคอ มักพบในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีการดื่มเหล้า สูบบุหรี่

อาการของโรค คือ มีแผลในช่องปาก รักษาไม่หายเป็นเวลานานเกิน 3 สัปดาห์ขึ้นไป มีฝ้าขาวในช่องปาก ร่วมกับตุ่มนูนบนเยื่อบุช่องปากและลิ้น มีก้อนไม่รู้สึกเจ็บในช่องปาก โตเร็ว และแตกเป็นแผล หรือมีก้อนที่คอ กดไม่เจ็บ บวมโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งแตกออกเป็นแผล ซึ่งระยะเริ่มแรกของมะเร็งช่องปาก มักไม่มีอาการเจ็บปวด นอกจากมีการอักเสบติดเชื้อร่วมด้วย แต่มะเร็งของลิ้นหรือลำคอในบางตำแหน่ง อาจทำให้เกิดการเจ็บในหูขณะกลืนอาหารได้ เพราะมีเส้นประสาทร่วมกัน สำหรับมะเร็งของลิ้นและพื้นปากใต้ลิ้น อาจทำให้มีอาการแลบลิ้นไม่ออก พูดไม่ชัด กลืนอาหารลำบาก ในรายที่เป็นบริเวณใต้ขากรรไกร โดยเฉพาะเมื่ออยู่ที่เหงือกในตำแหน่งหลังฟันกราม ซึ่งลุกลามเข้าไปในกล้ามเนื้อที่ใช้ในการอ้าปาก จะทำให้อ้าปากลำบาก

หากมีความผิดปกติดังกล่าวควรรีบพบแพทย์ โดยแพทย์จะทำการประเมินขั้นความรุนแรงของโรค และทำการวินิจฉัยโดยการซักประวัติตรวจร่างกาย เลือด ปัสสาวะ เอกซเรย์ และการตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา หากพบว่ามีก้อนมะเร็งในช่องปากแพทย์จะทำการรักษาโดยการผ่าตัด ฉายแสง เคมีบำบัด เป็นต้น

นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ที่สูบบุหรี่และดื่มสุรา มีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่และดื่มสุราถึง 15 เท่า จากสถิติพบผู้ป่วยโรคมะเร็งช่องปากร้อยละ 90 เป็นผู้ที่สูบบุหรี่และดื่มสุรา เพราะควันบุหรี่และแอลกอฮอล์ จะทำให้เกิดการระคายเคืองโดยเนื้อเยื่อที่มักมีผลกระทบจากความร้อน เช่น บริเวณกระพุ้งแก้ม เพดาน และลำคอ เมื่อถูกระคายเคืองเป็นประจำ ทำให้เนื้อเยื่อเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและอาจกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ โดยความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนบุหรี่ที่สูบต่อวันและจำนวนปีที่สูบ เช่นเดียวกับการดื่มสุราที่ยิ่งดื่มมากโอกาสเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ พบว่า แสงแดดมีโอกาสทำให้เกิดมะเร็งที่ริมฝีปาก รวมทั้งผู้ที่แปรงฟันไม่สะอาด ฟันผุเรื้อรัง ฟันแตก บิ่น ขอบฟันที่คมจะบาดเนื้อเยื่อในช่องปากทำให้เกิดแผลเรื้อรังอยู่นาน ๆ แผลนั้นอาจกลายเป็นมะเร็งได้เช่นกัน ดังนั้น การป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค คือ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดูแลสุขภาพช่องปากโดยแปรงฟันให้สะอาด อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ควรบ้วนปากหลังกินอาหารทุกครั้ง ควรใช้ฟันทุกซี่เคี้ยวอาหารเพื่อให้เหงือกและฟันแข็งแรง งดเหล้า บุหรี่ หมากพลู หมั่นตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก 6 เดือน จะลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งช่องปากได้

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น