xs
xsm
sm
md
lg

สธ.รับลูก “บิ๊กตู่“ แนะทุกหน่วยงาน “ลุกขยับแขนขา” ระหว่างประชุม เพิ่มการเคลื่อนไหว เร่งทำยุทธศาสตร์ชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
สธ.รับลูก "บิ๊กตู่" ชวนออกกำลังกายทุกวันพุธ แนะทุกหน่วยงาน "ลุกขยับแขนขา" ระหว่างประชุม ช่วยเพิ่มกิจกรรมทางกาย มอบกรมอนามัยคิดกิจกรรมต้นแบบช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวระหว่างวัน เร่งจัดทำยุทธศาสตร์กิจกรรมทางกายระดับชาติ เพิ่มกิจกรรมทางกาย 5 กลุ่มวัย ใน 5 สถานที่ ด้าน ก.แรงงานขอสถานประกอบการร่วมออกกำลังกาย

วันนี้ (23 พ.ย.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดให้ทุกวันพุธ เวลา 15.00 - 16.30 น. เป็นช่วงเวลาออกกำลังกายของข้าราชการ เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 30 พ.ย. เป็นต้นไป ว่า สธ. ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว ซึ่งในการประชุมผู้บริหาร สธ. ระดับสูง ก็ได้เชิญชวนผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และบุคลากรในสังกัดให้ออกกำลังกายทุกวันพุธ ซึ่งในพื้นที่ของ สธ. ก็มีพื้นที่ให้ได้ออกกำลังกายอยู่แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่พึงกระท ำและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องของการออกกำลังกายเท่านั้น แต่จะต้องมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ซึ่งกิจกรรมทางกายสามารถทำได้ทุกวัน เพื่อลดพฤติกรรมเนือยนิ่งลง ซึ่งเรื่องนี้ สธ. เริ่มมีการดำเนินการบ้างแล้ว

“อย่างการประชุมผู้บริหาร ซึ่งปกติจะเป็นการนั่งประชุมอย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมง ล่าสุด ก็มีให้มีการลุกขึ้นมาออกกำลังเล็กๆ น้อยๆ ขยับแขนขาระหว่างการประชุม เช่น ประชุมไปได้ 1 ชั่วโมง ก็ให้ทุกคนลุกขึ้นมาออกกำลัง ขยับแขนขา เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมเนือยนิ่ง ซึ่งการนั่งเฉยๆ จะทำให้อวัยวะหลายๆ อย่างในร่างกายไม่ทำงาน และเกิดความง่วงนอน ซึ่งกิจกรรมทางกายลักษณะเช่นนี้ ถือเป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานสามารถทำได้ และ สธ. ก็เริ่มทำเป็นต้นแบบแล้ว นอกจากนี้ ยังได้ให้กรมอนามัยเป็นเจ้าภาพในการคิด หรือหากิจกรรมทางกาย ที่ช่วยให้เกิดการเคลื่อนไหวระหว่างวัน เพื่อเป็นต้นแบบให้แก่หน่วยงานอื่นๆ ด้วย ว่า ระหว่างวันสามารถมีกิจกรรมทางกายอย่างไรได้บ้าง” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการที่นายกฯ กำหนดให้ทุกหน่วยงานราชการมีการออกกำลังกายทุกวันพุธ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมให้คนมีกิจกรรมทางกายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้กรมอนามัยได้ยกร่างแผนยุทธศาสตร์กิจกรรมทางกายชาติแล้ว อยู่ระหว่างการฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอ สธ. และเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าจะเสนอให้ได้ภายใน เม.ย. 2560 ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวตั้งเป้าหมายในการเพิ่มระดับการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอของคนไทยจากร้อยละ 68 เป็นร้อยละ 75 ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวเรียกว่า ยุทธศาสตร์ 5 ยกกำลัง 3 หรือ 5x5x5 คือ 1. ดำเนินการใน 5 กลุ่มวัย ได้แก่ ตั้งครรภ์ เด็กเยาวชน วัยรุ่น วัยทำงาน และ ผู้สูงอายุ

2. ส่งเสริม 5 สถานที่ให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย ได้แก่ สถานพยาบาล สถานประกอบการ สถานศึกษา สวนสาธารณะ/สถานออกกำลังกาย และคมนาคมขนส่ง และ 3. ระบบสนับสนุนการมีกิจกรรมทางกาย 5 ด้าน ได้แก่ มีระบบสนับสนุน มีการวิจัย มีการติดตามประเมินผล มีการพัฒนาศักยภาพ และระบบการสื่อสารรณรงค์ ทั้งนี้ หากยุทธศาสตร์ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบ หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปออกข้อบังคับ หรือแนวทางที่เอื้อให้เกิดการมีกิจกรรมทางกาย

วันเดียวกัน นายสุทธิ สุโกศล ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะรองโฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้ตอบรับนโยบายดังกล่าว โดยจะเริ่มออกกำลังกายตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. เป็นต้นไป เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. นำทีมโดยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และขอเชิญชวนผู้ประกันตน พี่น้องผู้ใช้แรงงาน เครือข่ายแรงงานนอกระบบ อาสาสมัครแรงงาน กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน หน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ร่วมออกกำลังกายอย่างพร้อมเพรียงกัน นอกจากนั้น จะให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ขอความร่วมมือสถานประกอบกิจการร่วมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้ใช้แรงงานอีกด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น