โลกการเงินออนไลน์บอกอนาคตจีน !! /สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

เหตุเกิดเมื่อค่ำคืนหนึ่งได้พูดคุยทางโทรศัพท์มือถือกับลูกชาย “สรวง สิทธิสมาน” หรือ “เฉินเทียนอี้” ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เล่าให้ฟังถึงการใช้จ่ายเงินที่นั่นช่างสะดวกสบายเหลือเกิน และมีเรื่องราวการแย่งกันซื้อของผ่านโลกออนไลน์ชนิดที่คนจีนตั้งตารอเพื่อหนึ่งวันในรอบปี เพียงวันเดียวมียอดซื้อของออนไลน์สูงระดับแสนล้านหยวน ก็เลยกลายเป็นที่มาของบทความชิ้นนี้ของหนุ่มน้อยวัย 18 ปีค่ะ
………………
เวลาผ่านไปเร็วมาก ผมมาใช้ชีวิตอยู่ในมหานครเซี่ยงไฮ้เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว
หลายครั้งมีความรู้สึกเหมือนกับว่าใช้ชีวิตอยู่ใน “โลกอนาคต” ยุคที่ไม่จำเป็นต้องพกกระเป๋าสตางค์หรือเงินสด ก็สามารถใช้จ่ายได้ตามปกติ โดยบัญชีทางการเงินทั้งหมดผูกอยู่ในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของใช้ชีวิตประจำวันที่สะดวกสบายทั้งในเรื่องของการรับประทานอาหารและการช้อปปิ้ง โดยสามารถสั่งผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนได้
เริ่มด้วยเรื่องการใช้จ่ายเงินที่สะดวกเรียบง่ายด้วยการสแกน QR code เท่านั้น เงินในธนาคารก็จะถูกตัดออกตามจำนวนที่เราต้องการจะจ่าย ผ่านทางแอปพลิเคชัน Alipay หรือ Wechat pay ที่คนจีนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน แทบทุกคนมักจะมี 2 แอปพลิเคชันนี้อยู่ในสมาร์ทโฟน เพราะนอกจากจะใช้จ่ายเงินสะดวก ยังสามารถโอนเงินได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งยังสะดวกในการใช้หยิบยืมหรือการคืนเงินกับเหล่าเพื่อนพ้องด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้แล้ว คนจีนยังนิยมสั่งอาหารแบบ Delivery อีกด้วย จึงทำให้เกิดแอปพลิเคชันสั่งอาหารแบบ Delivery ขึ้นมาหลายแอป ที่นิยมก็คือ 饿了么(e le me) และ美团(meituan) ซึ่งในมหานครใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ที่ผมใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ แทบจะทุกร้านเราสามารถสั่งให้มาส่งถึงบ้านเราได้ โดยที่ทางร้านไม่จำเป็นต้องไปส่งเอง เพียงแค่ลงชื่อเป็นสมาชิกกับทางแอพพลิเคชั่นสำหรับ Delivery เท่านั้น
ทุกๆ ครั้งที่มีคนสั่งอาหารผ่านทางแอปพลิเคชัน ทางแอปพลิเคชันจะแจ้งไปทางร้านอาหาร ว่า มีลูกค้าสั่งเมนูอะไรบ้าง ทางร้านอาหารก็ทำใส่กล่องเอาใว้ รอจนกว่าคนรับส่งของที่ทางแอปพลิเคชันส่งมารับของไปส่งต่อให้ถึงมือผู้สั่ง การจ่ายเงินก็จ่ายทางแอปพลิเคชันได้เลย หรือเอาบัญชีไปผูกกับ Alipay ก็ได้ ทั้งนี้ ทางแอปพลิเคชันจะคำนวณระยะทางและระยะเวลา ว่า ร้านอาหารที่เราจะสั่งนั้นไกลแค่ไหน จะมาส่งถึงมือเราภายในกี่นาที และหลังจากที่สั่งไปแล้ว เราก็จะสามารถรู้ได้ด้วยว่า ทางแอปพลิเคชันดำเนินการถึงไหนแล้ว คนรับส่งของอยู่ห่างจากเรากี่เมตร
ส่วนทางแอปพลิเคชันและคนรับส่งของก็จะมีรายได้จากค่าส่ง
อีกอย่างที่สะดวกมาก และเรียกได้ว่าป็นกิจกรรมที่ผมชอบที่สุดตั้งแต่มาใช้ชีวิตที่เซี่ยงไฮ้ นั่นก็คือ การชอปปิ้งออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน “เถาเป่า” 淘宝 หรือ www.taobao.com ผมได้ยินชื่อเสียงของแอปพลิเคชันนี้มาตั้งแต่ที่เมืองไทยแล้ว เพราะมันสามารถซื้อของได้ทุกอย่างจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ทั่วไป รถ บ้าน ตั๋วเครื่องบิน หรือแพกเกจทัวร์ ล้วนหาซื้อได้ในเถาเป่าทั้งนั้น โดยเราสามารถตรวจเช็คความน่าเชื่อถือของร้านค้าต่างๆ ได้ผ่านทางรีวิว
การชอปปิ้งออนไลน์นี้สามารถซื้อของได้ถูกกว่าการซื้อตามร้านค้าด้วยซ้ำ โดยระบบลำเลียงขนส่งของในจีนนั้นก็เร็วอย่างเหลือเชื่อ เขาสามารถส่งของข้ามมณฑลได้ภายในไม่เกิน 2 วัน หรืออย่างมากก็ไม่เกิน 1 สัปดาห์ คนส่วนใหญ่จึงหันมาชอปปิ้งทางอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น
และไม่นานมานี้ เราก็เพิ่งผ่านเหตุการณ์สำคัญกันมาหมาดๆ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน หรือวันที่ 11 เดือน 11 นั่นเอง…
วันที่เพื่อนหลายๆ คนของผมพร้อมใจกันโดดเรียน นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ดูสินค้าออนไลน์อย่างใจจดใจจ่อ
วันที่ในอีกซีกโลกหนึ่งกำลังขัดแย้งกันเรื่องผู้นำคนใหม่ จนมีคนออกมาประท้วงในหลายๆ พื้นที่ ซึ่งพวกเขาก็ต้องถูกปกครองโดยผู้นำท่านนี้อย่างน้อยก็ 4 ปี
แต่เป็นวันเดียวกันที่คนจีนทั้งประเทศพร้อมใจกันเทเงินในบัญชีของตัวเองให้กับแจ็คหม่า ซีอีโอของบริษัทเครืออาลีบาบา
เริ่มจากเป็นวันที่เลขหนึ่ง 4 ตัวเรียงกัน กลายเป็นเทศกาลคนโสด จนนายทุนบริษัทยักษ์ใหญ่เนรมิตวัน ๆ นี้ให้กลายเป็นวันที่คนที่ปรารถนาและรักการชอปปิ้งร่วมใจกันจ่ายเงินซื้อของทางออนไลน์ ให้กับร้านค้าและเครือบริษัท อาลีบาบา เป็นตัวเลขหลักแสนล้านหยวน ด้วยการลดราคาของที่ขายในเถาเป่า ซึ่งร้านค้าส่วนมากก็ร่วมรายการนี้ ทำให้มีของจำนวนมากในเถาเป่าลดราคาอย่างหนักเพื่อแข่งกันแย่งลูกค้า ในขณะเดียวกัน บรรดาเหล่าขาช้อปทั้งหลายก็ต้องแข่งกันกดซื้อสินค้าให้เร็วที่สุด
แน่นอน...ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
เนื่องจากสินค้ามีจำนวนจำกัด และคนจีนมากกว่าพันล้านคนแข่งกันซื้อของภายในวันเดียวที่มีการลดราคาหนักเป็นพิเศษ จึงทำให้ของในสต็อกหมดไปอย่างรวดเร็ว บางครั้งของในสต็อกมีอยู่หนึ่งพันชิ้นก็สามารถขายหมดได้ภายในหนึ่งวินาที
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2016 เวลา 23:59 น. เป็นเวลาที่ผมกับรุ่นพี่สองสามคนกำลังตั้งหน้าตั้งตารอ อีก 1 นาทีก็จะถึงเวลาที่คนจีนทั้งประเทศรอแล้ว และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนตรง ผมจะกดซื้อสินค้าที่ผมตั้งใจจะซื้อ และเตรียมจะกดซื้อใว้แล้ว...
แต่ ณ เวลานั้น ดูเหมือนว่าเซิร์ฟเวอร์จะล่ม ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะคนจีนมากมายมหาศาลคงกำลังทำอยู่ในสิ่งเดียวกัน เซิร์ฟเวอร์ล่มไปประมาณ 4 นาที ก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ว่า สามารถกลับมาเล่นเป็นปกติ ผมจึงลองกดซื้อไปอีกครั้ง แต่ผลปรากฏว่า สิ่งที่ผมจะซื้อนั้นหมดไปแล้ว ผมจึงรีบไปดูสินค้าอื่นที่เตรียมตัวจะซื้อเอาใว้
ผมเตรียมที่จะซื้อสินค้า 5 อย่างในวันนั้น แต่กลับสามารถซื้อมาได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ภายในวันเดียวมีการซื้อขายผ่านทางอินเทอร์เน็ตมากกว่าแสนล้านหยวน หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยก็มากกว่าห้าแสนล้านบาท และจำนวนการสั่งสินค้า e-commerce ทุกเจ้าในจีนรวมกันก็มากกว่าพันล้านรายการ
วันชอปปิ้งลดราคาที่ทุกคนต่างมีความสุขที่ได้เลือกซื้อสินค้าที่อยากได้ในราคาถูก การจ่ายเงินมหาศาลของคนจีนมากกว่าครึ่งประเทศนั้นกระตุ้นระบบเศรษฐกิจจีนให้เงินหมุนเวียนมากขึ้น
เห็นได้ชัดว่าภายในไม่เกิน 5 - 10 ปีนี้ ผมเชื่อว่า ประเทศจีนจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแรง และเทคโนโลยีไปไกล อาจแซงหน้าสหรัฐฯ หรือกลุ่มอียูด้วยซ้ำ
เราควรประเมินความสำคัญของประเทศจีนใหม่ไหม !!
ทุกวันนี้ เพื่อนผมบางคนยังมองประเทศจีนผ่านคนจีนบางกลุ่มที่มาท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย มองด้วยสายตาแปลกๆ แต่เพื่อนอาจจะละเลยไม่ได้มองอีกด้านหนึ่งของเหรียญว่าถ้าคนจีนเหล่านั้นไม่มาท่องเที่ยวประเทศเรา บ้านเราคงขาดรายได้จากการท่องเที่ยวไปไม่น้อยกว่าครึ่งแน่นอน และอันที่จริงที่ผมพยายามบอกเพื่อน ก็คือ ประเทศจีน วันนี้มีอีกมากมายหลายประเด็นให้มองลึกลงไปกว่านั้น เท่าที่ผมเล่ามาก็เป็นเพียงปรากฎการณ์ส่วนหนึ่งเท่านั้น
แต่ที่แน่ๆ คือ ถึงเวลาที่เราจะปรับมุมมองใหม่ และตื่นตัวกับ “อนาคต” ที่กำลังเกิดขึ้นแล้วในประเทศจีน !!

: อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก FB อ้ายจง และ Penpisut G Liangliang (รุ่นพี่)

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่