เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่สำหรับเทศกาลซื้อขายสินค้าออนไลน์ในวันคนโสด (Singles’ Day) ซึ่งจัดขึ้นทุกวันที่ 11 พ.ย. บนแดนมังกร โดยยอดขายของปีนี้ยังคงทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่องหลังพบขุมพลังการบริโภคจากชาวจีนวัยยี่สิบสามสิบ
รายงานข่าว (13 พ.ย.) อ้างอิงข้อมูลจากอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซในประเทศจีน ระบุว่ามูลค่าการซื้อขายสินค้าบนเว็บไซต์ของบริษัทได้พุ่งทะยานไปอยู่ที่ 120,700 ล้านหยวน หรือมากกว่าหกแสนล้านบาท ภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง โดยร้อยละ 82 ของการซื้อขายเกิดขึ้นบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละห้าสิบจากปีก่อน และส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่อายุน้อยกว่า 35 ปี
“ความตื่นเต้นเร้าใจยังคงมีมาทุกปี และเราได้เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอีคอมเมิร์ซ เมื่อเหล่านักช้อปสามารถเข้าถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ” ดักลาส ฟีกิน รองประธานอาวุโสของแอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส กรุ๊ป (Ant Financial Services Group) ซึ่งดูแลระบบชำระเงินออนไลน์อาลีเพย์ (Alipay) กล่าว
แอนท์ ไฟแนนเชียล ระบุว่าการช้อปปิ้งอันบ้าระห่ำได้แตะจุดสูงสุดในหกสิบนาทีแรกของการเริ่มต้นวันคนโสด ด้วยการทำรายการมากกว่า 120,000 รายการต่อวินาที ซึ่งเมื่อสิ้นสุดวันบริษัทพบการทำรายการรวม 1,050 ล้านรายการ เพิ่มขึ้นจากปีกลายกว่าร้อยละ 48
“ปีนี้เหมือนเป็นการดูลาดเลาอนาคตการค้าปลีกที่ความบันเทิง การซื้อขาย และการมีส่วนร่วมตัดผ่านกันอย่างลงตัว” แดเนียล จัง หัวหน้าฝ่ายบริหารของอาลีบาบากล่าว “คนรุ่นใหม่ที่เกิดหลังปี 2533 กำลังกลายเป็นแหล่งผู้บริโภคสำคัญ ด้วยวิถีชีวิตและรูปแบบการบริโภคที่แตกต่างหลากหลาย”
ทั้งนี้ ก่อนเริ่มต้นเทศกาลช้อปปิ้งซึ่งเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ธนาคารเอ็มวายแบงค์ (MYbank) ของแอนท์ ไฟแนนเชียล ได้ปล่อยเงินกู้มากกว่าห้าหมื่นล้านหยวนแก่ผู้ประกอบการร้านค้าจำนวน 1.33 ล้านราย สำหรับใช้เป็นเงินทุนซื้อสินค้าขึ้นชั้นวางออนไลน์
นอกจากนั้นแอนท์ เครดิต เพย์ (Ant Credit Pay) ของแอนท์ ไฟแนนเชียล ยังปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลแก่ลูกค้ามากกว่าหนึ่งร้อยล้านราย เพื่ออัดฉีดเงินเข้ากระเป๋านักช้อปออนไลน์อีกด้วย
“พวกเขาเป็นพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าที่อาศัยอยู่ชานเมืองห่างไกล เป็นคนที่ไม่เคยมีบัตรเครดิต ไม่ได้มีสินทรัพย์หรือหลักประกันมากพอจะยื่นกู้ขั้นพื้นฐานจากธนาคารปกติได้” ดักลาสกล่าว
ด้านแบรนด์ดังต่างชาติทั้งหลายก็ใช้โอกาสนี้โกยเงินก้อนโต ด้วยยอดขายก้าวกระโดดกว่าร้อยละ 47 จากกลุ่มลูกค้ามากกว่า 47 ล้านราย โดยอาลีบาบาเผยว่า แอปเปิล ไนกี้ นิวบาลานซ์ เพลย์บอย และสเก็ตเชอร์เป็นแบรนด์มะกันยอดนิยม ส่วนซีเมนส์ ฟิลิปส์ อะดิดาสจากฝั่งยุโรป และยูนิโคล่ พานาโซนิค ชาร์ปจากฝั่งญี่ปุ่นก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
“แบรนด์นอกพบว่าเทศกาลฯ เป็นโอกาสวิเศษสำหรับสร้างเครือข่ายใหม่ในกลุ่มลูกค้าจีน” ไมเคิล อีแวนส์ ประธานอาลีบาบากล่าว “มากกว่า 14,000 แบรนด์ได้เปิดร้านค้าของตัวเองบนเว็บไซต์ทีมอลล์ (Tmall) เพื่อร่วมเทศกาลฯ ปีนี้”
อย่างไรก็ดี ยอดขายของปีนี้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.5 กลับต่ำกว่าการคาดการณ์โดยกลุ่มนักวิเคราะห์ที่ติดตามการดำเนินธุรกิจของอาลีบาบา ซึ่งทำนายว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 ไปอยู่ที่ 125,000 ล้านหยวน โดยอัตราเติบโตของยอดขายบนเว็บไซต์ (จีเอ็มวี) ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 60
ทว่าแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานอาลีบาบา ออกมากล่าวสั้นๆ ก่อนเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เขาลดความสำคัญของตัวเลขจีเอ็มวีลง เพราะมันไม่ใช่เรื่องของจำนวนเพียงอย่างเดียว และการชี้วัดลักษณะดังกล่าวก็อาจเป็นเรื่องหลอกตา