เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ชายจีนงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อจู่ ๆ ตัวเองก็กลายเป็นหนี้ก้อนโต แถมมีชื่อพัวพันคดีความอีกนับสิบ ... สืบสาวต้นตอมาจาก "บัตรประจำตัวประชาชน" เพียงใบเดียว!
นายหลิว ฮั่นถิง ชาวเมืองเซินเจิ้น มณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง) เผยกับเซาท์เทิร์น เมโทรโปลิส เดลี ว่าเขาได้รับการติดต่อครั้งแรกจากธนาคารหมินเซิง สาขานครเซินเจิ้นในปี 2555 โดยธนาคารแจ้งว่าเขามียอดหนี้บัตรเครดิตค้างชำระ 370,000 หยวน หรือราว 1.85 ล้านบาท
"ธนาคารฯ แจกแจงหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ของผม ซึ่งข้อมูลทั้งหมดล้วนถูกต้อง" หลิวกล่าว อย่างไรก็ดี เขายืนยันว่าไม่เคยมีบัตรเครดิตกับธนาคารฯ เลย
หลิวพบอีกว่า ทุกตัวอักษรที่กรอกอยู่บนเอกสารของธนาคารนั้นสอดคล้องกับข้อมูลส่วนตัวของเขา ยกเว้นเพียง 'รูปถ่าย' ใบหน้าของใครอีกคนที่ไม่ใช่เขา
รายงานข่าวระบุว่า ชื่อของหลิวกลายเป็นเจ้าของหนี้สินกว่า 80 ล้านหยวน หรือราว 400 ล้านบาท หลังจากบัตรประจำตัวประชาชนของเขาถูกลักขโมยไปในปี 2555 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นเผยว่าผู้ต้องสงสัยคือนายหลิว เผยเว่ย ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการตัวเนื่องจากมีความผิดฐานฉ้อโกงสัญญา
นอกจากหนี้ก้อนมหึมาที่เขาไม่ได้ก่อแล้ว ข้อมูลของหลิว ฮั่นถิง ยังถูกนำไปใช้จดทะเบียนบริษัทในเซินเจิ้น จัดตั้งกองทุนผ่านการกู้ยืมภาคเอกชน และถอนเงินจากบัญชีบัตรเครดิตหลายใบที่เปิดใช้บริการกับธนาคารท้องถิ่นหลายแห่ง
ขณะเดียวกันชื่อของหลิวผู้เสียหายยังเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความ 32 คดี ซึ่งบางส่วนได้รับการว่าความไปแล้วอีกด้วย โดยหลิวบอกว่าเขาไม่เคยได้รับหมายศาลหรือร่วมรับฟังการพิจารณาคดีแม้แต่ครั้งเดียว
"ผมไม่กล้าจะเป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไรอีกแล้ว" หลิวกล่าว
ทั้งนี้ กรณีโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลได้เพิ่มสูงขึ้นบนแดนมังกร เนื่องจากมีกลุ่มมิจฉาชีพหรือองค์กรใต้ดินคอยเร่ขายข้อมูลพวกนี้ ซึ่งได้มาอย่างผิดกฎหมายด้วยวิธี "แฮ็ค" หรือเจาะระบบเก็บรักษาข้อมูลของบรรดาธนาคารและสถาบันการเงินสาธารณะ
