xs
xsm
sm
md
lg

หมอตาแฉ “วิตามิน” รักษาต้อโฆษณาเกินจริง รักษาไม่ได้ หวั่นคนหลงเชื่อทำตาบอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


จักษุแพทย์ ชี้ โฆษณา “วิตามิน” รักษาต้อ บำรุงสาย เป็นโฆษณาเกินจริง ไม่สามารถรักษาได้ ชี้ต้อต่าง ๆ มีวิธีรักษาต่างกัน วิตามินช่วยแค่ผู้ป่วยจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุบางประเภท ต้องผ่านการวินิจฉัยจากหมอก่อนจึงใช้ได้ หวั่นคนหลงเชื่อทำขาดการรักษา เสี่ยงตาบอด

วันนี้ (2 พ.ย.) ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกรณีโซเชียลมีเดีย มีการขายอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ ที่อ้างช่วยบำรุงสายตา บรรเทาปัญหาการมองเห็นจากภาวะต้อหิน ต้อเนื้อ ต้อลม ต้อกระจกหายได้หลังรับประทาน 3 วันขึ้นไป โดยมีครูเพลงชื่อดังร่วมโฆษณา ว่า โรคตาแต่ละชนิดมีแนวทางการรักษาแตกต่างกัน หากเป็นปัญหาสายตายผิดปกติต้องสวมแว่นสายตา หรือทำเลสิก ถ้าเป็นต้อกระจกต้องผ่าตัดต้อกระจก หากเป็นต้อหินต้องให้ยาลดความดันลูกตา ไม่สามารถกินวิตามินแล้วบอกว่ารักษาทุกโรคได้ วิตามิน หรืออาหารเสริมที่ใช้ทางตานั้นใช้ได้ในบางกรณี ส่วนใหญ่ที่มีการขายในปัจจุบันมักมีส่วนประกอบของสารลูทีน และ ซีแซนทีน เป็นกลุ่มวิตามิน ซึ่งมีการศึกษาที่พิสูจน์ว่าได้ประโยชน์เฉพาะผู้ป่วยจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุบางประเภทที่ได้รับการวินิจฉัยจากจักษุแพทย์ก่อนจึงจะสามารถใช้ยาได้ ดังนั้น การนำวิตามินต่าง ๆ มาโฆษณาว่ารักษาโรคตาได้ทุกโรคนั้นไม่เป็นความจริง เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ

“เรื่องดังกล่าวเป็นการโฆษณาเกินจริง และไม่สามารถใช้วิตามินเพื่อการรักษาได้ หากหลงเชื่อแล้วกินแค่อาหารเสริมจะทำให้เกิดอันตราย ขาดโอกาสการรักษาที่ถูกต้อง ทำให้โรครุนแรงขึ้นจนถึงขั้นตาบอดได้ เช่น ถ้าเป็นต้อเนื้อจะลุกลามจนบังการมองเห็น ถ้าเป็นต้อกระจกจะทำให้อาการรุนแรงเกิดผลแทรกซ้อนกลายเป็นต้อหินและตาบอดในที่สุด ยิ่งถ้าเป็นต้อหินอยู่แล้วไม่ได้รับการรักษาด้วยยาลดความดันลูกตา อาจจะทำให้ตาบอดได้ บางคนอาจจะใช้เวลาเพียง 1 - 2 เดือน ก็ทำให้ตาบอดได้ ดังนั้น ขอให้ อย. ช่วยกวดขันเรื่องการโฆษณาเกินจริงที่อาจจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนด้วย” ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว

ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ยาหรืออาหารเสริมดังกล่าวเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ได้มีผลต่อการรักษาต้อต่าง ๆ และไม่แนะนำให้คนทั่วไปซื้อใช้เองเพื่อถนอมดวงตา แต่ขอแนะนำให้เลือกดูแลสุขภาพตาด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นอันตรายต่อดวงตา เช่น ลม ฝุ่น และ แสงแดด อาจจะสวมแว่นกันแดด สวมหมวก หรือใช้ร่ม ไม่ใช้สายตามากเกินไปโดยเฉพาะการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ต้องพักสายตาบ้าง ส่วนเรื่องอาหารที่มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา อาทิ ผักใบเขียว แครอท เป็นต้น แต่ไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินเอเสริมก็ได้ เพราะร่างกายไม่ได้ต้องการวิตามินเอมาก แค่รับประทานอาหารให้ครบก็เพียงพอ คนไทยไม่ขาดแคลน
กำลังโหลดความคิดเห็น