“... การช่วยเหลือสนับสนุนประชาชนในการประกอบอาชีพ และตั้งตัวให้มีความพอกิน พอใช้ ก่อนอื่นเป็นพื้นฐานนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะผู้ที่มีอาชีพและฐานะเพียงพอที่จะพึ่งตนเอง ย่อมสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าระดับที่สูงได้ต่อไปโดยแน่นอน ส่วนการถือหลักที่จะส่งเสริมความเจริญให้ค่อยเป็นไปตามลำดับ ด้วยความรอบคอบระมัดระวังและประหยัดนั้น ก็เพื่อป้องกันความผิดพลาดล้มเหลวและเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จได้แน่นอนบริบูรณ์...” พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2517
จากพระบรมราโชวาทดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับประชาชน ดังนั้น กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จึงได้น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานด้วย “โครงการส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้ประกอบอาชีพในพื้นที่ของตนเอง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายแรงงานจากชนบทเข้าสู่เมือง ทั้งเป็นการรวมกลุ่มกันเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอีกด้วย
“โครงการส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน” เป็นการจ้างงานรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้ผู้อยู่ที่บ้านสามารถมีอาชีพ มีรายได้ เป็นการประกอบอาชีพที่ผู้จ้างงานจะเป็นผู้จัดส่งงานให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้าน และเมื่อทำงานเสร็จแล้ว และส่งคืนงานให้กับผู้จ้างงานแล้ว ผู้รับงานไปทำที่บ้านจะได้ค่าตอบแทนกลับมา ซึ่งลักษณะของงานจะเป็นงานที่เน้นการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้แรงงานคนในการผลิตมากกว่าเครื่องจักร ไม่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อน เป็นการผลิตในครัวเรือน เช่น การทำกระเป๋า รองเท้า หมอน เสื่อ ตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เจียระไนพลอย แหวน ประกอบเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า และงานด้านการเกษตร เป็นต้น
กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้จัดตั้ง “กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน” เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้มีการรวมกลุ่มกันบริหารจัดการให้มีความเข้มแข็ง เป็นการสร้างความมั่นคงในการทำงาน และพัฒนาทักษะฝีมือของผู้รับงานไปทำที่บ้าน โดยกรมการจัดหางานจะให้คำปรึกษา แนะนำ เกี่ยวกับการรับงานไปทำที่บ้านให้กับกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งกลุ่มได้ ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ การรวมกลุ่มต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 5 คน มีผู้นำกลุ่ม มีวัตถุประสงค์กลุ่มที่ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 522 กลุ่ม มีสมาชิกจำนวน 4,429 คน
นอกจากนี้ กรมการจัดหางานยังได้จัดตั้ง “กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านกู้ยืมไปซื้อวัตถุดิบ และอุปกรณ์ในการผลิตหรือขยายการผลิตเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมา มีกลุ่มที่ได้รับการกู้ยืมแล้ว 289 กลุ่ม เป็นเงิน 25,681,000 บาท ส่งผลให้กรมการจัดหางานได้รับรางวัล “ทุนหมุนเวียนดีเด่น” จากกระทรวงการคลัง ติดต่อกัน 2 ปี คือ ในปี 2558 และ 2559 ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาศักยภาพกองทุนหมุนเวียนเกิดประโยชน์กับประชาชนและสังคม ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนาเพื่อขยายผล “โครงการส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน” เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพหลัก มีงานทำอย่างต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืน ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสืบไป
จากพระบรมราโชวาทดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับประชาชน ดังนั้น กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จึงได้น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานด้วย “โครงการส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้ประกอบอาชีพในพื้นที่ของตนเอง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายแรงงานจากชนบทเข้าสู่เมือง ทั้งเป็นการรวมกลุ่มกันเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอีกด้วย
“โครงการส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน” เป็นการจ้างงานรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้ผู้อยู่ที่บ้านสามารถมีอาชีพ มีรายได้ เป็นการประกอบอาชีพที่ผู้จ้างงานจะเป็นผู้จัดส่งงานให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้าน และเมื่อทำงานเสร็จแล้ว และส่งคืนงานให้กับผู้จ้างงานแล้ว ผู้รับงานไปทำที่บ้านจะได้ค่าตอบแทนกลับมา ซึ่งลักษณะของงานจะเป็นงานที่เน้นการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้แรงงานคนในการผลิตมากกว่าเครื่องจักร ไม่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อน เป็นการผลิตในครัวเรือน เช่น การทำกระเป๋า รองเท้า หมอน เสื่อ ตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เจียระไนพลอย แหวน ประกอบเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า และงานด้านการเกษตร เป็นต้น
กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้จัดตั้ง “กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน” เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้มีการรวมกลุ่มกันบริหารจัดการให้มีความเข้มแข็ง เป็นการสร้างความมั่นคงในการทำงาน และพัฒนาทักษะฝีมือของผู้รับงานไปทำที่บ้าน โดยกรมการจัดหางานจะให้คำปรึกษา แนะนำ เกี่ยวกับการรับงานไปทำที่บ้านให้กับกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งกลุ่มได้ ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ การรวมกลุ่มต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 5 คน มีผู้นำกลุ่ม มีวัตถุประสงค์กลุ่มที่ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 522 กลุ่ม มีสมาชิกจำนวน 4,429 คน
นอกจากนี้ กรมการจัดหางานยังได้จัดตั้ง “กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านกู้ยืมไปซื้อวัตถุดิบ และอุปกรณ์ในการผลิตหรือขยายการผลิตเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมา มีกลุ่มที่ได้รับการกู้ยืมแล้ว 289 กลุ่ม เป็นเงิน 25,681,000 บาท ส่งผลให้กรมการจัดหางานได้รับรางวัล “ทุนหมุนเวียนดีเด่น” จากกระทรวงการคลัง ติดต่อกัน 2 ปี คือ ในปี 2558 และ 2559 ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาศักยภาพกองทุนหมุนเวียนเกิดประโยชน์กับประชาชนและสังคม ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนาเพื่อขยายผล “โครงการส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน” เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพหลัก มีงานทำอย่างต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืน ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสืบไป