xs
xsm
sm
md
lg

สาวเทียมระวัง! กินฮอร์โมนเพศมาก เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กลุ่มเพศหลากหลายระวัง! แพทย์ชี้กินฮอร์โมนเพศทำเลือดแข็งตัว อุดตันได้ ส่งผลเกิดโรคหลอดเลือดสมอง กลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไป พบป่วยหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น

วันนี้ (13 ต.ค.) ที่โรงพยาบาลศิริราช ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลศิริราช กล่าวในงานแถลงข่าว “วันโรคหลอดเลือดสมองโลก (World Stork Day) เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต 2559” ระหว่างวันที่ 30 ต.ค. - 1 พ.ย.นี้ ว่าปัจจุบันโรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่พบบ่อย อัตราการป่วยและพิการ อัมพาตสูง ซึ่งข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกพบว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองสูงถึง 15 ล้านคน ซึ่งในประเทศเจริญแล้วมีการป่วยลดลงร้อยละ 40 แต่ประเทศกำลังพัฒนา หรือด้อยพัฒนา รวมถึงประเทศไทยกลับว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับที่ 2 รองจากโรคมะเร็ง ในกลุ่มผู้หญิงจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ส่วนผู้ชายชายจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 4 รองจากโรคมะเร็ง อุบัติเหตุ และโรคเอดส์

ศ.นพ.นิพนธ์กล่าวว่า จากการทำวิจัยในชุมชนทั่วประเทศพบกลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองร้อยละ 1.8 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.12 โดยทุกๆ 4 นาที มีผู้ป่วยรายใหม่เกินขึ้น 1 คน และทุกๆ 10 นาที เสียชีวิต 1 คน หรือชั่วโมงละ 6 คน อัตราการป่วยและอัมพาตด้วยโรคหลอดเลือดสมอง 995 ต่อแสนประชากร ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วย 5 คนจะอยู่ที่ประมาณ 20,632 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณคนละ 4 แสนบาทต่อปี สาเหตุของการเกิดโรคอันดับ 1 คือ โรคความดันโลหิตสูงทำให้เกิดโรคได้ 3-17 เท่า เบาหวาน 3 เท่า นอนกรน 3 เท่า สูบบุหรี่ 2 เท่า ไขมันในเลือดสูง 2 เท่า อย่างไรก็ตาม โรคดังกล่าวกว่าร้อยละ 90 สามารถสามารถป้องกันได้ด้วยการป้องกันปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ซึ่งหากป้องกันได้ร้อยละ 50 ก็จะสามารถประหยัดงบประมาณในการดูแลรักษาผู้ป่วยได้ถึงปีละหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสามารถป้องกันการเกิดโรคได้ร้อยละ 40

“ปัจจุบันเราพบว่าเรื่องเซ็กซ์ เรื่องเพศหลากหลาย เกย์ เลสเบี้ยน โดยเฉพาะการข้ามเพศเนื่องจากพบว่ามีการใช้ฮอร์โมนเพศอย่างเอสโตรเจน ซึ่งจะทำให้เลือดแข็งตัว หรือเกิดการอุดตัน นอกจากนี้ร่วมเพศที่มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อเอชไอวีก็มีผลต่อการเป็นโรคหลอดเลือดในสมองด้วยเช่นกัน” นพ.นิพนธ์กล่าว และว่าในคนหนุ่มสาวก็เริ่มพบผู้ป่วยมากขึ้นเช่นกันเนื่องจากทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ แต่ยังบอกไม่ได้ว่ามีจำนวนมากแค่ไหน

รศ.นพ.ประจักษ์ ศรีรพีพัฒน์ หัวหน้าสาขาวิชาประสาทศัลยศาสตร์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า อีก 20 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุอันดับต้นๆ ของเอเชีย ดังนั้นต้องรับมือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นโรคที่พบมากในผู้สูงอายุ ดังนั้นต้องรณรงค์ให้ประชาชนรู้จักโรครู้เร็ว มาให้ทันลดอัตราเสียชีวิตและอัมพาต เพราะการมาเร็วจะสามารถแยกว่าเปิดจากเส้นเลือดสมองแตกหรือตีบ จะได้รักษาได้ถูกทาง ทั้งนี้ ภาวะเส้นเลือดสมองแตกทำให้เสียชีวิตสูงร้อยละ 50 และอัมพาตสูง ส่วนเส้นเลือดตีบอัตราการเสียชีวิตอัมพาตน้อยกว่า อยู่ที่ร้อยละ 20

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น