ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ
เลขาธิการทันตแพทยสภา
ความพยายามในการเคลื่อนฟันจากตำแหน่งหนึ่งไปยังตำแหน่งหนึ่ง เกิดขึ้นในโลกมานานแค่ไหน ไม่มีใครทราบ แต่มีการค้นพบหลักฐานการใช้เครื่องมือในการจัดฟันย้อนไปไกลถึงไอยคุปต์ สมัยอารยธรรมอียิปต์โบราณ ล่วงไปหลายร้อยปี ทันตแพทย์ Normal William Kingsley ชาวอเมริกัน ซึ่งสนใจการแก้ไขความผิดปกติของผู้ป่วยปากแห่งเพดานโหว่ คิดค้นแผ่นยางปิดรูโหว่ในช่องปากให้ผู้ป่วยสามารถทานอาหารและพูดเหมือนคนปกติ รวมทั้งหาวิธีการแก้ไขการเรียงตัวของฟันด้วยวิธีต่าง ๆ และเขียนเป็นตำรา ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1879 และถือเป็นตำราว่าด้วยการจัดฟันเล่มแรกของโลก
ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นความพิการแต่กำเนิด เกิดขึ้นในช่วงพัฒนาการของตัวอ่อนในครรภ์มารดาในช่วงที่โครงสร้างของใบหน้าตัวอ่อนกำลังเติบโต แต่การพัฒนาเป็นไปอย่างไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดรอยแยกของริมฝีปาก หรือเพดานปาก หรือทั้งสองส่วนต่อเนื่องกัน และมักจะมีฟันหายไปบางซี่ หรือเรียงตัวผิดปกติ ส่งผลต่อการสบฟันและการเคี้ยวอาหาร รวมไปถึงการออกเสียงคำพูด จะเห็นได้ว่า เจตนารมณ์ของการจัดฟันในระยะแรก มุ่งหวังที่จะแก้ปัญหาให้กับผู้ป่วยที่ประสบปัญหาเป็นสำคัญ
เนื่องจากการเรียงตัวของฟันมีผลต่อเค้าโครงใบหน้าและสัมพันธ์กับความสวยความงาม จึงทำให้การจัดฟันเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการจัดฟันในช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุด ทำให้เห็นวัยรุ่นใส่เหล็กจัดฟันกันทั่วไป คนที่ไม่มีปัญหาการสบฟันก็อยากจะใส่เหล็กจัดฟันพร้อมยางสีสันสดใส การเป็นแฟชั่นจัดฟันระบาดกันไปทั่ว เคยมีข่าวนักเรียนไปจัดฟันแฟชั่นที่คลินิกเสริมความงามเถื่อนจนกระทั่งเสียชีวิตกันมาแล้ว
การให้บริการทันตกรรมจะต้องกระทำโดยทันตแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน แต่ปัจจุบันพบว่า มีการให้บริการทันตกรรมโดยผู้ที่ไม่มีความรู้ หวังแต่เพียงประโยชน์จากค่าบริการ พ.ร.บ. วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ. 2537 มาตรา 28 เขียนไว้ชัดเจนว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใด้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมทำการประกอบวิชาชีพทันตกรรม หรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” หากฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากจัดฟันแฟชั่นแล้ว เร็ว ๆ นี้ ยังมีข่าวดาราเปิดร้านฟอกสีฟัน และ Share ภาพถ่ายเพื่อนดาราที่ไปใช้บริการกันจนเกิดเป็นกระแสอยากฟอกฟันขาว หลังจากนั้น ทันตแพทยสภาได้รับการติดต่อจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ว่า การให้บริการดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะไม่ได้อยู่ในการดูแลของทันตแพทย์และลักษณะการให้บริการก็ไม่เป็นไปตามมาตรฐานทันตกรรม
การฟอกสีฟันก็เช่นเดียวกับการจัดฟัน จะต้องกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมเท่านั้น เพราะต้องมีการเตรียมน้ำยา เตรียมช่องปาก และขั้นตอนอื่น ๆ อีกมาก จึงไม่ใช่เรื่องที่ใครก็ได้มาเปิดร้านให้บริการ นายกทันตแพทยสภาจึงได้แจ้งเตือนประชาชน และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายในทันที
วันรุ่งขึ้น ผู้ประกอบการฟอกสีฟันดังกล่าวได้ขอเข้าชี้แจงทันตแพทยสภาเพื่อชี้แจงและแสดงความบริสุทธิ์ใจ จากการสอบถามพบว่าร้านฟอกสีฟันเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่ซื้อสิขสิทธิ์มาจากต่างประเทศ แต่เนี่องจากกฎหมายของแต่ละประเทศมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะมีการขออนุญาตนำเข้าน้ำยาฟอกสีฟันอย่างถูกต้อง แต่ผู้นำเข้าไม่ได้ศึกษากฎหมายทันตกรรมของประเทศไทยอย่างถ่องแท้ จึงเกิดข้อผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ และหลังจากทราบข้อเท็จจริงก็ยุติการดำเนินกิจการในทันที นอกจากนั้น ยังได้เตือนผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมายรายอื่นให้รับทราบเงื่อนไขของกฎหมาย ซึ่งถือเป็นสปิริต และความกล้าหาญที่พร้อมรับผิดชอบต่อสังคม
แม้ว่ากรณีฟอกสีฟันจะจบลงไปแล้วอย่างรวดเร็ว แต่อาจไม่ใช่รายสุดท้าย มาตรการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย มักจะได้ผลช้าและไม่ยั่งยืน แต่การบอกกล่าวข้อเท็จจริงแก่ประชาชนให้ตระหนักถึงภัยจากการไปรับบริการที่ผิดกฎหมาย และมีความรู้เพียงพอต่อตนเองและคนรอบข้าง น่าจะเป็นภูมิคุ้มกันที่มั่นคงในระยะยาว
ให้หมอฟันดูแลสุขภาพฟันและช่องปากของท่านเถิดครับ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่