สบส. เร่งร่างแนวทางบริการ “นวดไทย” หนุนผลักดันเสนอเป็นมรดกโลก รองรับการเป็นเมดิคัล ฮับ พร้อมหารือกระทรวงแรงงานกำหนดเป็นอาชีพสงวนคนไทยเท่านั้น
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ เมดิคัลฮับ (Medical Hub) โดยยกระดับบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพประเภทนวดไทยและสปาไทย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ ให้เป็นแบรนด์หรือสัญลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งจากการหารือร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงวัฒนธรรม องค์กรยูเนสโกประจำประเทศไทย และภาคเอกชน ทุกหน่วยงานมีความเห็นตรงกันว่าควรผลักดันให้ “นวดไทย” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เนื่องจากเป็นมรดกภูมิปัญญาของไทยที่สืบทอดมายาวนานกว่า 600 ปี ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ นวดแบบราชสำนัก และนวดแบบเชลยศักดิ์ โดยจะร่วมกันเร่งผลักดันตามขั้นตอน หากเป็นผลสำเร็จจะถือว่าเป็นมรดกชิ้นแรกของโลกที่สามารถนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ ขณะเดียวกัน ได้หารือกับกระทรวงแรงงาน ในการปรับปรุงกฎหมายเพิ่มเติมอาชีพนวดไทยให้เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย เพื่อรักษาคุณภาพ มาตรฐาน เอกลักษณ์ และชื่อเสียงของการนวดไทย ซึ่งเปรียบเสมือนรสสัมผัสที่สามารถรับรู้ผ่านการนวดโดยฝีมือคนไทยเท่านั้น
นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสุขภาพระหว่างประเทศ สบส. กล่าวว่า กระบวนการผลักดันนวดไทยเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม สบส. จะเร่งจัดทำร่างแนวทางและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริการนวดไทย ที่จะยกให้เป็นระดับมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ได้แก่ การนวดแบบราชสำนัก และการนวดแบบเชลยศักดิ์ ที่ยังมีผู้ประกอบอาชีพนี้อยู่ และเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาและส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านบริการและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬา เป็นประธาน จากนั้นจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ซึ่งมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งจะมีการประชุมทุกปีที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
นพ.ภัทรพล กล่าวว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีสถานที่ที่ประกาศเป็นมรดกโลก จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย มรดกโลกด้านวัฒนธรรม 3 แห่ง ได้แก่ เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร, นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง มรดกโลกด้านธรรมชาติ มี 2 แห่ง คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้ง และผืนป่าดงพระยาเย็น - เขาใหญ่ หากการนวดไทยผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการมรดกโลก ก็จะเป็นมรดกโลกลำดับที่ 6 ของประเทศไทยในด้านวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นการยกระดับแบรนด์นวดไทยให้เป็นทรัพย์สินทางปัญญา สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในธุรกิจบริการสุขภาพของไทย ได้แก่ สปา นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมความงาม ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมกำกับคุณภาพมาตรฐานของกรม สบส. ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 และกฎหมายฉบับนี้จะเอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่มีความรู้เรื่องการนวด ทั้ง นวดแบบราชสำนัก และนวดแบบเชลยศักดิ์ สามารถประกอบอาชีพสร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างการเข้าร่วมเป็นสมาชิกภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโกอย่างสมบูรณ์ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งหลังจากเป็นสมาชิกแล้วจึงสามารถนำมรดกภูมิปัญญาของไทยไปประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้ต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่