xs
xsm
sm
md
lg

อาชญากรรมพุ่ง!! หลังบอลยูโรจบ...หนี้พนันไม่จบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เครือข่ายหยุดพนัน เตือนบอลยูโรจบหนี้พนันไม่จบตาม หวั่นอาชญากรรมพุ่ง จี้ภาครัฐคุมเข้มต่อเนื่อง วางมาตรการรับมือเยียวยาคนอยากเลิกพนัน น่าห่วงสำรวจพบเยาวชนในสถานพินิจ 42%เคยพนันบอล 60% มองไม่ใช่ปัญหาสังคม

วันนี้ (11 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิล เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับ เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่นพนัน และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีเสวนาเตือนภัย “บอลจบแต่หนี้พนันไม่จบ ระวังอาชญากรรม และความสูญเสียซ้ำรอย”

นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า หลังเทศกาลฟุตบอลยูโร 2016 จบลง สิ่งที่ตามมาคือ หนี้พนัน อาจรวมไปถึงคดีอาชญากรรม ใช้วิธีที่ผิดกฎหมายหาเงินใช้หนี้พนัน เห็นได้จากปัจจุบันมีคดีจำนวนมากที่มีสาเหตุมาจากการพนันบอล โดยเฉพาะเยาวชนถือเป็นวัยน่าห่วงที่เข้าไปเกี่ยวข้องมากที่สุด ที่ผ่านมา ภาครัฐ และ ภาคสังคม สื่อมวลชน อาจประมาทละเลยไม่จริงจัง พอมีสถานการณ์เกิดขึ้นก็ออกมาพูด ดังนั้น จึงไม่อยากให้พอฟุตบอลยูโรจบการทำงานทุกอย่างก็จบตาม

“หลังจากบอลยูโรจบ การทวงหนี้พนันจะเริ่มขึ้น รัฐบาลต้องจริงจังกับเรื่องผู้มีอิทธิพลและการทวงหนี้เงินกู้นอกระบบ ที่มักจะพบว่าบรรดาลูกหนี้พนันมักจะไปกู้เงินมาใช้หนี้ การป้องกันปราบปรามจึงต้องทำต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ต้องพัฒนาพื้นที่บริการให้คำปรึกษาเยียวยาผู้รับผลกระทบ ผู้ที่อยากเลิกพนันเพราะผลสำรวจพบว่า คนไทยติดพนัน 2 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นเด็กและเยาวชน2แสนคน ขณะที่บริการรัฐมีเพียงให้คำปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตเลิกพนัน 1323 ดังนั้น ควรมี เจ้าภาพชวนทุกภาคส่วนร่วมวางกรอบลดปัญหาจากพนัน เช่น การบำบัดเยียวยาผู้รับผลกระทบ ทั้งด้านหนี้สินและจิตใจรณรงค์ให้เกิดความตื่นรู้เท่าทันพนัน โดยเร็ว ๆ นี้ เครือข่ายจะไปยื่นข้อเสนอต่อสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ร่วมกับภาควิชาการ และภาคประชาสังคม เพื่อหาแนวทางการรับมือปัญหาพนันกันอย่างยั่งยืน อยากให้ทุกฝ่ายมองว่าช่วงนี้เป็นโอกาส ขณะที่สังคมตื่นตัวพูดเรื่องพนันกันเยอะ ไม่อยากให้พอฟุตบอลยูโรจบการทำงานทุกอย่างก็จบตาม ที่ผ่านมาสังคมไทยประมาทปัญหาการพนันเกินไป” นายธนากร กล่าว

นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นเด็กและเยาวชนภายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก จำนวน 1,375 คน ในช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา พบว่า 42% เคยมีประสบการณ์เล่นพนันทายผลฟุตบอลในเทศกาลฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโร และ ฟุตบอลลีกต่าง ๆ เนื่องจากพนันฟุตบอลสามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นพนันผ่านโต๊ะพนัน ผ่านเว็บไซต์ วงเงินพนันต่อครั้งส่วนใหญ่อยู่ที่ 100 - 500 บาท เกือบครึ่งคือ 44% เล่นทุกวันที่มีการแข่งขัน และยังพบว่า ส่วนหนึ่ง 14% เคยกู้ยืมเงินมาเล่นพนันฟุตบอล ส่วนปัญหาจากการเล่นพนัน คือ เสียทรัพย์สิน เงินทอง เป็นหนี้ เครียด เสียการเรียน และถูกจับดำเนินคดี สิ่งที่น่ากังวลคือ เด็กและเยาวชน 60% มองว่า การเล่นการพนันบอลไม่เป็นปัญหาของสังคม ซึ่งตรงนี้สะท้อนว่าพนันฟุตบอลถูกมองเป็นเรื่องปกติ เข้าถึงได้ง่าย มาตรการทางกฎหมายที่มีอยู่ไม่สามารถจัดการกับช่องทางการเล่นได้ อีกทั้งการบังคับใช่กฎหมายยังขาดการเอาจริงเอาจัง โต๊ะพนัน และนักพนันไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวต่อกฎหมาย และยังขาดความตระหนักถึงปัญหาผลกระทบที่จะตามมาจากการเล่นพนันบอล จุดนี้น่าเป็นห่วงมาก

นายเอ (นามสมมติ) อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชาย บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า ก้าวเข้าสู่วงจรพนันตั้งแต่ 7 ขวบ เริ่มจากเล่นสนุกเกอร์ พัฒนามาเป็นบ่อน โต๊ะบอลและเล่นพนันทุกอย่าง พอมีหนี้สิน เมื่อไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจหนี ทำให้คนที่เรารักต้องเดือดร้อน ใช้ชีวิตปกติไม่ได้ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เมื่อไม่มีทางออกก็คิดสั้นหันมาทำอาชีพผิดกฎหมายทุกอย่าง ถึงขั้นไปค้ายา และพอได้เงินไปใช้หนี้ก็ยังคงเล่นพนันไปพร้อม ๆ กัน ไม่คิดจะเลิก พอมีหนี้เพิ่มขึ้นอีกก็ตัดสินใจปล้น ทำร้ายรุนแรงถึงขั้นเขาต้องเสียชีวิต

“ผมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับ และชื่อถูกขึ้นบัญชีดำ ต้องหลบหนีไปเรื่อย ๆ จนพ่อขอร้องให้ไปมอบตัว จึงถูกนำตัวไปรับโทษตามกฎหมายที่บ้านกรุณา และได้ย้ายมาอยู่บ้านกาญจนาภิเษก กระบวนการต่าง ๆ ที่นี่ ทำให้ผมเริ่มคิดได้ว่า การเป็นทาสพนันมันส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตและคนรอบข้างอย่างไรบ้าง กระทั่งพ้นโทษก็กลับมาตั้งต้นชีวิตใหม่ ไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับพนันอีกเลย อย่างไรก็ตาม อยากฝากให้ผีพนันนำบทเรียนนี้ไปเป็นอุทาหรณ์สอนใจ อย่าคิดริลอง เพราะมันไม่ส่งผลดีกับใคร หนี้พนันมันทำให้เราสูญเสียแทบทุกอย่างไป และอาจรวมถึงอิสรภาพด้วย” นายเอ กล่าว

ขณะที่ นายราเมศร ศรีทับทิม อายุ 32 ปี ผู้ที่เคยก้าวพลาดติดพนันบอลและหลุดพ้นจนกลายมาเป็นนักรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า เริ่มเล่นพนันบอลตอนอยู่ ม.4 และหันมาเปิดโต๊ะรับแทงบอลเองในโรงเรียน เมื่อไปไม่รอด เพราะมีหนี้สินเกินตัว จึงเปลี่ยนจากเจ้ามือมาเป็นผู้เล่น สุดท้ายติดหนี้บอลหลายหมื่นในช่วง ม.ปลาย นี้เอง เริ่มถูกข่มขู่ตามทวงหนี้ จนทางบ้านรู้ความจริง ก็มารับใช้หนี้แทน จนเข้าสู่ช่วงมหาวิทยาลัย ผมก็ยังไม่เลิกพนันบอลยังคงเป็นเหมือนเดิม มันเหมือนห้ามใจไม่ได้ แต่ตอนนี้ก็เอาทุกอย่างทั้งสนุกเกอร์ ตู้ม้า ไฮโล ท้ายสุดก็เป็นหนี้อีก เจ้าหนี้โต๊ะบอลก็มาตามล่า ต้องหนีไปเรื่อย ๆ เข้าหอก็ไม่ได้ ชีวิตเหมือนมืดแปดด้าน จนต้องสารภาพกับแม่อีกครั้ง และก็เป็นแม่ที่ต้องหาเงินมาใช้หนี้ที่ผมทำขึ้น ครั้งนี้ผมตั้งใจว่าเราจะเดินบนเส้นทางนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว สงสารแม่มาก และเมื่อเลิกเล่นพนันได้นำบทเรียนนี้หันมาทำงานรณรงค์ลดละเลิกการพนัน เป็นอาสาสมัครรณรงค์ในช่วงแรก แต่ทุกวันนี้ได้รับโอกาสให้มาเป็นเจ้าหน้าที่โครงการแล้ว ขอฝากถึงคนที่เล่นพนันบอลให้กลับตัวเถอะยิ่งช่วงบอล ยูโรจบลง หนี้พนันมันจะไม่จบตาม ปัญหาจะทวีคูณหลายเท่าชีวิตหนี้พนันมันแย่ที่สุดจริง ๆ

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น