xs
xsm
sm
md
lg

“ครูหยุย” ชงกระทู้หนี้ กยศ. รบ.เล็งสร้างแรงจูงใจให้ชำระ ปรับ กม. ยันไม่นิ่งนอนใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วัลลภ ตังคณานุรักษ์  สมาชิก สนช. (แฟ้มภาพ)
สนช.กระทู้ถามปัญหาหนี้ กยศ. “ครูหยุย” เผยมีใช้คืนเพียง 60% รัฐเสียงบฯ ไปมาก จี้ถามหามาตรการ รมช.คลัง แจงยังค้างชำระสูงถึง 62% ฟ้องร้องเกือบ 8 แสนราย เผยจ้างเอกชนมาท้วงหนี้เพิ่มประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายถึงสูงขึ้น ชี้เหตุไม่คืนมีการบอกว่าทุนเรียนฟรี รุ่นพี่บอกจ่ายไปไม่ฉลาด และนักการเมืองขายฝันบอกจะปลดหนี้ กยศ.สร้างแรงจูงใจชำระหนี้ ยันไม่นิ่งนอนใจเล็งปรับปรุง กม.

วันนี้ (29 เม.ย.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณากระทู้ถามเรื่องปัญหาการค้างชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช.ถามนายกรัฐมนตรี โดยมีนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง มาตอบกระทู้แทนนายกฯ

นายวัลลภกล่าวว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มี.ค. มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กู้ยืมเงินนักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจนถึงระดับปริญญาตรี แต่ที่ผ่านมาเกิดปัญหาเมื่อนักเรียนนักศึกษาที่กู้ยืมเงินจบการศึกษาแล้วไม่ยอมชำระหนี้จนทำให้เกิดการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาล ซึ่งจากสถิติการชำระหนี้ กยศ.มีเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ที่ชำระหนี้คืน และอีก 60 เปอร์เซ็นต์คือผู้ไม่มาชำระหนี้ จึงส่งผลให้รัฐบาลสูญสียงงบประมาณ และมีปัญหาในการดำเนินการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ต่อนักเรียน นักศึกษาในรุ่นต่อไปได้ รวมทั้งรัฐบาลยังต้องเสียงบประมาณในการจ้างบริษัทมาทวงหนี้อีก จึงขอถามว่าปัจจุบันกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาให้กู้ยืมไปแล้วกี่ราย เป็นจำนวนเท่าใด และมีผู้มาชำระหนี้คืนทั้งหมดแล้วเท่าใดและคงเหลือจำนวนเงินที่ยังไม่ได้รับชำระหนี้คืนรวมทั้งหมดเท่าใด มีปริมาณคดีที่ยังค้างอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลจำนวนเท่าใด และในแต่ละปีต้องเสียงบประมาณในการทวงหนี้ผู้กู้ไปมากน้อยเพียงใด และรัฐบาลมีนโยบายหรือมาตราการในการบังคับคดีหรือทวงเงินกู้ยืมคืนให้มีประสิทธิภาพอย่างไร

ด้านนายวิสุทธิ์ชี้แจงว่า ตั้งแต่เริ่มดำเนินงานของกองทุนฯ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 20 ปี ได้อนุมัติวงเงินกู้ยืมเรียนให้นักเรียนนักศึกษากว่า 4,625,210 ราย เป็นเงินกว่า 493,000 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้มีการชำระหนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว 427,352 ราย มีหนี้ที่ยังไม่ถึงกำหนดการชำระหนี้ 1 ล้านกว่าราย และยังหนี้ถึงกำหนดชำระหนี้ประมาณ 3 ล้านกว่าราย เป็นเงินประมาณแสนล้านบาท จากข้อมูลพบว่ามีการค้างชำระหนี้กว่า 1.9 ล้านราย คิดเป็น 62 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง ส่วนการฟ้องร้องคดีนั้นมีการดำเนินคดีต่อผู้กู้ยืมเงินกว่า 7.9 แสนราย และศาลมีคำพิพากษาให้ผู้กู้ยืมเงินหรือผู้ค้ำประกันชำระเงินคืนแต่ก็ยังไม่มาชำระหนี้ 7.4 แสนราย ทั้งนี้ยังมีคดีที่ค้างการพิจารณาของศาลอีก 33 ราย ถือเป็นจำนวนที่น่ากังวล

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการทวงหนี้นั้นในปี 56 ต้องใช้งบประมาณในการทวงหนี้ 90.15 ล้านบาท ปี 57 จำนวน 85.11 ล้านบาท ปี 58 จำนวน 271 ล้านบาท เหตุที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นนั้นเพราะมีการจ้างบริษัทเอกชนมาดำเนินการจากที่เคยให้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการติดตามทวงหนี้ ทั้งนี้เพื่อให้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทวงหนี้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผู้กู้ยืมเงินจะชำระหนี้ปีละ 1,500 บาทต่อปี หรือ 125 บาทต่อเดือน โดยผู้กู้ยืมเงิน กยศ.ไม่ชำระหนี้นั้นก็มีสาเหตุหลายประการไม่ใช่เพราะไม่มีเงินชำระหนี้เพียงอย่างเดียว แต่มีการพูดกันต่อๆ ว่าเป็นกองทุนให้เรียนฟรี มีคำบอกของรุ่นพี่ที่บอกน้องว่า จ่ายไปไม่ฉลาด หรือแม้การหาเสียงของนักการเมืองที่บอกว่าหากเป็นรัฐบาลก็จะปลดหนี้ให้ สิ่งเหล่านี้จึงทำให้เกิดภาวะชะงักงันในการชำระหนี้ ประกอบการติดตามทวงหนี้ของ กยศ.ก็มีปัญหา โดยทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุให้เกิดการค้างชำระหนี้จำนวนมาก

ทั้งนี้ กยศ.จึงได้พยายามแก้ไขโดยการสร้างแรงจูงใจให้กลับมาชำระหนี้ เช่น ลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้ที่มาชำระหนี้ก่อนกำหนด การทำบันทึกข้อตกลงกับนายจ้างที่ผู้กู้ยืมเป็นลูกจ้างก็ให้หักเงินเดือน และเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ชำระหนี้ในการเพิ่มช่องทางชำระหนี้ผ่านร้านสะดวกซื้อ ยืนยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ มีการจัดการเรื่องนี้นอกจากนโยบายที่สร้างแรงจูงใจแล้วและจะมีการปรับปรุงกฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น