กรมอนามัย หนุนสิทธิ์พ่อลางานช่วยแม่เลี้ยงลูกได้นาน 15 วัน หวังสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว แนะ 10 วิธีปฏิบัติ สำหรับพ่อช่วยแม่เลี้ยงลูก และจัดการภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาที่ลางาน พร้อมส่งเสริมทารกได้ดื่มนมแม่อย่างเดียวครบ 6 เดือน
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้พ่อลาคลอดได้หากเป็นข้าราชการ และลูกจ้างราชการ เพื่อช่วยดูแลแม่และลูกน้อยระหว่างคลอด โดยพ่อข้าราชการมีสิทธิ์ได้รับเงินเดือนระหว่างลาได้ไม่เกิน 15 วัน ถ้าเป็นการลาภายใน 30 วันแรกนับตั้งแต่วันที่แม่คลอด มีสิทธิ์รับเงินระหว่างลาได้ โดยจะต้องมีหนังสือรับรองจากภรรยาแนบมาด้วย และต้องจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาให้อนุญาตก่อน หรือในวันที่ลาภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันคลอดบุตร โดยถือให้เป็นสิทธิ์การลาประเภทหนึ่งที่ยังได้รับเงินเดือนในระหว่างที่ลา ซึ่งสิทธิ์การลาดังกล่าวจะมีส่วนผลักดันให้พ่อได้มีโอกาสช่วยแม่ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมความรักความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ทำให้แม่มีสภาวะจิตใจที่ดี ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังจนกลายเป็นภาวะซึมเศร้าตามมา โดยพ่อสามารถปฏิบัติตนภายใต้วิธี 10 ประการ ได้แก่ “1) ให้กำลังใจแม่ขณะให้นมลูก เพื่อให้แม่มีความมั่นใจและอบอุ่น 2) ให้ลูกได้อยู่กับแม่มากที่สุด โดยพ่อต้องยอมรับว่าในระยะนี้เวลาที่แม่จะมีให้พ่อมีน้อยลง 3) มีส่วนร่วมในการให้นมลูก คือ ขณะแม่กำลังให้ลูกดูดนม พ่อควรหาโอกาสอยู่ร่วมด้วย พูดคุย ให้กำลังใจ สัมผัส ช่วยประคับประคองลูก ซึ่งจะทำให้ความผูกพันพ่อแม่ลูกแน่นแฟ้นขึ้น
4) มีความอดทนและเข้าใจ หากบ้านอาจจะไม่เรียบร้อย อาหารอาจไม่อร่อย เนื่องจากแม่ให้เวลาส่วนใหญ่แก่ลูกมากกว่า 5) ช่วยทำงานบ้าน จ่ายตลาด จัดอาหาร และเครื่องดื่ม เช่น น้ำ นม ให้แม่ขณะที่ให้ลูกดูดนม ช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อม ช่วยอาบน้ำ แต่งตัวให้ลูก 6) ทำใจให้สงบเยือกเย็น ถ้าขณะนั้นแม่เครียด เหนื่อย หงุดหงิดใจ ให้พ่อช่วยปลอบโยนแม่เพื่อช่วยให้สบายใจ หายหงุดหงิด ให้พ่อช่วยนวดแม่เบา ๆ บริเวณ คอ ไหล่ และหลังขณะกำลังให้นมลูก หรือเมื่อแม่รู้สึกเครียด ทำให้มีน้ำนมไหลมากขึ้น 7) หากครอบครัวมีลูกมากกว่า 1 คน พ่อก็จะเป็นหลักในการดูแลลูก ๆ 8) แสดงความรักแก่แม่อย่างต่อเนื่องอย่างที่เคยทำ 9) ตอบสนองความต้องการทางจิตใจของแม่ตลอดระยะของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และ 10) ห้ามซื้อขวดนม หัวนมปลอม หรือนมผสมเข้าบ้านเด็ดขาด” นพ.วชิระ กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สิ่งสำคัญในช่วงที่พ่อช่วยแม่เลี้ยงลูก คือ การส่งเสริมให้ลูกดื่มนมแม่ตามที่องค์การอนามัยโลก และ ยูนิเซฟ ได้แนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมตนเองอย่างเดียว 6 เดือนเต็ม และเลี้ยงควบคู่อาหารที่เหมาะสมตามวัยจนลูกอายุครบ 2 ปี เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อลูกมากที่สุด เพราะมีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด และหัวน้ำนม หรือ โคลอสตรัม ยังอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ถือเป็นวัคซีนหยดแรกสำหรับลูก เพื่อเป็นช่วงที่มีภูมิคุ้มกันสูงสุด ในขณะที่เด็กแรกเกิดยังไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันเองได้ เด็กที่กินนมแม่จึงมีภูมิต้านทานโรค ช่วยกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และเพิ่มความแข็งแรงให้ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้ลูกป่วยเป็นไข้หวัด ปอดอักเสบ ท้องร่วงน้อยกว่าทารกที่กินนมผสม 2 - 7 เท่า
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่