มือมืดสร้างเพจปลอม สธ. คนติดตามกว่าแสน แพร่ข่าวลวง “กุ้งฝังหัวเชื้อยาไอซ์” โลกออนไลน์แชร์อื้อ สธ. รีบแจ้งความ เตือนอย่าแชร์ต่อ เตรียมเอาผิด พ.ร.บ. คอมฯ แนะ ปชช. เช็กก่อนแชร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในเฟซบุ๊ก มีคนตั้งเพจ “กระทรวงสาธารณสุข” ขึ้น มีผู้เข้ามากดถูกใจแล้วกว่า 2.5 แสนคน โดยเพจดังกล่าวได้มีการแชร์ข่าว “เตือนภัย!! พบกุ้งฝังหัวเชื้อยาไอซ์ เด็กนักเรียนดับ 2 เผยสามจังหวัดอันตราย” โดยแชร์มาจากเว็บไซต์ mophnews.com ซึ่งถือเป็นเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขปลอม เนื่องจาก URL ของเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข คือ www.moph.go.th จึงมีแนวโน้มสูงว่าเพจดังกล่าวเป็นเพจปลอม ขณะที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่างแชร์ข่าวนี้ออกไปจำนวนมาก
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า เพจดังกล่าวเป็นเพจปลอม ขณะนี้ สธ. ได้มอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศของ สธ. ร่วมกับฝ่ายกฎหมาย เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เป็นผู้ที่ไม่หวังดีที่มีการใช้เซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ โดยเหตุผลหลักคาดว่าน่าจะเป็นการทำประเด็นให้คนสนใจ เพื่อให้คนเข้าไปดูเพื่อหวังประโยชน์จากยอดคลิก ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีการกระทำลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการนำภาพบางส่วนจากโฮมเพจของ สธ. ไปใช้โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับการพบกุ้งฝังหัวเชื้อยาไอซ์ ซึ่งทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเป็นข้อมูลที่มาจาก สธ. โดยเว็บไซต์ดังกล่าวใช้ที่อยู่เว็บไซต์ (URL) www.mogpnews.com และทำภาพหน้าเว็บคล้ายกับชื่อเว็บไซต์ของ สธ. จึงได้มอบให้นักกฎหมาย ของ สธ. แจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งเรื่องไปยังศูนย์รับข้อร้องเรียนการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและระงับการเผยแพร่เว็บไซต์ดังกล่าวต่อไป นอกจากนี้ ได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตรวจสอบข้อมูลที่กล่าวถึง เพื่อให้ข้อเท็จจริงแก่ประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าว มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 โดยมาตรา 14 ระบุว่า “ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” จึงขอความร่วมมือประชาชนในการส่งต่อข้อมูลต่าง ๆ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง “เช็กก่อนแชร์” โดยเฉพาะหากเป็นข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับบุคคลอื่น ก็ไม่ควรเผยแพร่ต่อ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่