สธ. กำชับ รพ. ทั่วประเทศ ทำแผนรับมือภัยแล้ง เฝ้าระวังปัญหาการขาดแคลนน้ำ สำรองน้ำให้เพียงพอ เพิ่มมาตรการประหยัดน้ำ ประสานท้องถิ่นจัดหาแหล่งน้ำ
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดขณะนี้ที่อาจมีผลกระทบต่อสถานพยาบาลให้การบริการประชาชน ว่า จากข้อมูลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุ ณ วันที่ 11 มีนาคม 2559 นี้ มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 14 จังหวัด 48 อำเภอ และข้อมูลจาก วอร์รูมภัยแล้งกระทรวงสาธารณสุข รายงานมีสถานบริการที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงประสบภัยแล้ง 5 แห่ง ทุกแห่งสามารถเปิดบริการประชาชนได้ตามปกติ ได้แก่ 1. โรงพยาบาลสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างขุดเจาะบ่อบาดาลลึก 300 เมตร สำรวจปริมาณและคุณภาพน้ำ พร้อมจัดทำประปาผิวดิน 2. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยทหาร องค์กรปกครองท้องถิ่น และกรมน้ำบาดาล ในการจัดหาน้ำ และขณะนี้อยู่ระหว่างสร้างระบบกรองน้ำ (Reverse Osmosis)
3. โรงพยาบาลเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นอำเภอแยกใหม่ระบบสาธารณูปโภคอยู่ระหว่างดำเนินการได้รับการแก้ปัญหาเบื้องต้น โดยโรงพยาบาลภูเวียงขนน้ำประปามาเติมที่ถังน้ำสำรองทุกวัน และจัดหาแหล่งน้ำบาดาล สำรวจคุณภาพน้ำ ขอขยายขอบเขตการให้บริการน้ำประปา 4. โรงพยาบาลพระทองคำ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดระบบการควบคุมปริมาณการใช้น้ำ แยกระบบน้ำที่ใช้ล้างเครื่องมือทางการแพทย์จากระบบปกติ จัดสร้างโรงกรองน้ำ ระบบกรองน้ำพร้อมระบบสำรองน้ำไว้ใช้ในโรงพยาบาล 5. โรงพยาบาลขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับการแก้ปัญหา โดยการสนับสนุนน้ำจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แยกระบบการใช้น้ำที่ใช้ในการรักษาและล้างเครื่องมือแพทย์
“ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด และโรงพยาบาลทั่วประเทศ ทำแผนรับมือภัยแล้ง ทั้งระยะสั้น และแผนระยะยาว เฝ้าระวังปัญหาการขาดแคลนน้ำ และสำรองน้ำให้เพียงพอต่อการให้บริการประชาชน เพิ่มมาตรการประหยัดน้ำ และประสานหน่วยงานในท้องถิ่นจัดหาแหล่งน้ำไม่ให้กระทบบริการผู้ป่วย” รมว.สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดขณะนี้ที่อาจมีผลกระทบต่อสถานพยาบาลให้การบริการประชาชน ว่า จากข้อมูลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุ ณ วันที่ 11 มีนาคม 2559 นี้ มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 14 จังหวัด 48 อำเภอ และข้อมูลจาก วอร์รูมภัยแล้งกระทรวงสาธารณสุข รายงานมีสถานบริการที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงประสบภัยแล้ง 5 แห่ง ทุกแห่งสามารถเปิดบริการประชาชนได้ตามปกติ ได้แก่ 1. โรงพยาบาลสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างขุดเจาะบ่อบาดาลลึก 300 เมตร สำรวจปริมาณและคุณภาพน้ำ พร้อมจัดทำประปาผิวดิน 2. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยทหาร องค์กรปกครองท้องถิ่น และกรมน้ำบาดาล ในการจัดหาน้ำ และขณะนี้อยู่ระหว่างสร้างระบบกรองน้ำ (Reverse Osmosis)
3. โรงพยาบาลเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นอำเภอแยกใหม่ระบบสาธารณูปโภคอยู่ระหว่างดำเนินการได้รับการแก้ปัญหาเบื้องต้น โดยโรงพยาบาลภูเวียงขนน้ำประปามาเติมที่ถังน้ำสำรองทุกวัน และจัดหาแหล่งน้ำบาดาล สำรวจคุณภาพน้ำ ขอขยายขอบเขตการให้บริการน้ำประปา 4. โรงพยาบาลพระทองคำ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดระบบการควบคุมปริมาณการใช้น้ำ แยกระบบน้ำที่ใช้ล้างเครื่องมือทางการแพทย์จากระบบปกติ จัดสร้างโรงกรองน้ำ ระบบกรองน้ำพร้อมระบบสำรองน้ำไว้ใช้ในโรงพยาบาล 5. โรงพยาบาลขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับการแก้ปัญหา โดยการสนับสนุนน้ำจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แยกระบบการใช้น้ำที่ใช้ในการรักษาและล้างเครื่องมือแพทย์
“ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด และโรงพยาบาลทั่วประเทศ ทำแผนรับมือภัยแล้ง ทั้งระยะสั้น และแผนระยะยาว เฝ้าระวังปัญหาการขาดแคลนน้ำ และสำรองน้ำให้เพียงพอต่อการให้บริการประชาชน เพิ่มมาตรการประหยัดน้ำ และประสานหน่วยงานในท้องถิ่นจัดหาแหล่งน้ำไม่ให้กระทบบริการผู้ป่วย” รมว.สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่