ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ทึ่ง “น้องโมโน” เด็กหญิงชาวขอนแก่นวัยแค่ 4 ขวบ ใช้จินตนาการวาดภาพการ์ตูน “ผีตาโบ๋” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนเข้าตาบริษัทไลน์ ประเทศญี่ปุ่น อนุมัติซื้อขายสติกเกอร์ไลน์ภายใต้ชื่อ Phi ta bo (ผีตาโบ๋)
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายธีรพงษ์ แสงสิทธิ์ ชาวอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ถึงความสามารถของลูกสาว คือ ด.ญ.กัญญาภัค แสงสิทธิ์ หรือน้องโมโน อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนศรีวิสุทธิ์ อำเภอภูเวียง มีความสามารถพิเศษใช้จินตนาการสามารถวาดภาพการ์ตูนตามที่น้องตั้งชื่อเองว่า “ผีตาโบ๋” มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว และนำภาพวาดดังกล่าวมาอวดคนในบ้าน
จึงมีความคิดว่าจะนำผลงานของลูกสาวออกเผยแพร่ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยม จึงศึกษารายละเอียดข้อกำหนดของไลน์ ก่อนส่งผลงานภาพวาดผีตาโบ๋ให้บริษัท ไลน์ ที่ประเทศญี่ปุ่นพิจารณาเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาจนได้รับการอนุมัติและเริ่มเข้าสู่ระบบการซื้อขายครั้งแรกในวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อสติกเกอร์ไลน์ Phi ta bo (ผีตาโบ๋)
นายธีรพงษ์กล่าวต่อว่า น้องโมโนชื่นชอบการขีดเขียนวาดรูปและระบายสีเป็นอย่างมากตั้งแต่ 1-2 ขวบ สังเกตว่าชอบดูการ์ตูน วาดรูปเอง ลงสีเอง วาดตามผนังบ้าน วาดลงกระดาษตามประสาของเด็ก แต่ไม่ได้สวยอะไรมากมาย จนกระทั่งวันหนึ่งน้องโมโน วาดรูปอย่างเช่นเคยตามปกติ แล้วหยิบกระดาษแผ่นนั้น เดินมาบอกตนว่ารูปที่วาดคือ “ผีตาโบ๋” เมื่อนำมาดูจึงเห็นว่าน่าสนใจ จึงเริ่มช่วยลงลวดลายให้คมชัด และสีที่ดูเป็นระเบียบไม่เลอะออกนอกขอบ ช่วยแต่งให้ดูสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
และได้ติดต่อกับบริษัท ไลน์ ประเทศญี่ปุ่น ถึงผลงานภาพวาดการ์ตูนผีตาโบ๋ พิจารณาในการจัดทำเป็นสติกเกอร์ จำหน่ายให้กับผู้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ จนกระทั่งได้รับการอนุมัติ เริ่มเข้าสู่ระบบการซื้อขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อสติกเกอร์ไลน์ Phi ta bo (ผีตาโบ๋)
สำหรับสติกเกอร์ไลน์ “ผีตาโบ๋” ของน้องโมโน มีลวดลายทั้งหมด 40 แบบตามหลักเกณฑ์ของบริษัท ไลน์ ออกจำหน่ายออนไลน์ทั่วโลก ปัจจุบันได้รับความสนใจจากชาวเน็ตทั่วโลก ทั้งจากอเมริกา ญี่ปุ่น แคนนาดา ลาว โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 30 บาทเท่านั้น ซึ่งความโดเด่นอยู่ที่การอธิบายเป็นเรื่องราวในภาษาอังกฤษว่า “ผีตาโบ๋” เป็นผีไทยดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ส่วนเรื่องรายได้นั้นหากจำนวนผู้ซื้อครบ 1 หมื่นเยน หรือประมาณ 3 พันบาท บริษัท ไลน์จะแจ้งให้ทราบและมีรายได้เข้ามาในบัญชี ขณะนี้ได้รับความสนใจพอสมควร ซึ่งพ่อน้องโมโนกล่าวว่า สิ่งที่ภาคภูมิใจที่สุด ไม่ใช่จากรายได้ที่ได้ แต่เป็นความภาคภูมิใจในความสามารถของลูกสาว และพยายามส่งเสริมพัฒนาการของลูกสาวอย่างต่อเนื่อง