วิกฤตแล้ง! น้ำเขื่อนอุบลรัตน์แห้งสั่งห้ามเลี้ยงปลากระชังเด็ดขาด หวั่นแม้ผลิตน้ำประปาอาจไม่พอ

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - แห้งแล้งสุดในรอบ 20 ปี ประมงจังหวัดขอนแก่นออกคำสั่งห้ามเลี้ยงปลาในกระชังตามลำน้ำพองเด็ดขาด ชี้หากยังไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่เพิ่มเชื่อปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ในอ่างเก็บจะไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปา

ว่าที่ ร.ต.นวรัตน์ จิตรภิรมย์ศรี หัวหน้าสำนักงานประมงจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งใน จ.ขอนแก่นว่า จากการตรวจสอบปริมาณน้ำเก็บกักภายในเขื่อนอุบลรัตน์ขณะนี้มีอยู่ที่ประมาณ 27% ของความจุอ่างเท่านั้น ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เพราะเป็นปริมาณน้ำกักเก็บในภาพรวมตลอดหน้าฝนของปีนี้ เป็นสัญญาณเตือนว่าปีนี้มีน้ำที่น้อยมาก เทียบเท่ากับเมื่อปี 2536 จะทำให้ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างแน่นอน ในปี 2559 นี้ถือได้ว่าประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี

“คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดได้ขอความร่วมมือไปยังเกษตรกรงดทำนาปรังเด็ดขาด งดเลี้ยงปลาในกระชังเพื่อลดการเกิดน้ำเสีย ซึ่งจะทำให้ปลาในกระชังตายได้”

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประชุมของคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จ.ขอนแก่น โดยชลประทานหนองหวาย อ.น้ำพอง ได้แจ้งมาว่า อ่างเก็บน้ำหนองหวายใกล้ที่จะไม่มีน้ำผลิตน้ำประปาแล้ว จึงต้องมีมาตรการห้ามเลี้ยงปลาในกระชังในลำน้ำพองอย่างเด็ดขาด เพราะน้ำที่เหลืออยู่ขณะนี้คาดว่าใช้ได้ถึงปลายมีนาคม 2559เท่านั้น หากไม่มีฝนตกลงมาอีกจะไม่มีน้ำผลิตเป็นน้ำประปาสำหรับอุปโภค บริโภค อย่างแน่นอน

ดังนั้น ปริมาณน้ำที่เหลืออยู่จะต้องเก็บไว้ผลิตน้ำประปาเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ขอนแก่นเพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น ล่าสุดทางประมงจังหวัดขอนแก่นได้ออกหนังสือเตือนชาวประมงในจังหวัดห้ามเลี้ยงปลาในกระชังเด็ดขาด แต่จากการสำรวจก็ยังพบว่ามีเกษตรกรส่วนหนึ่งลักลอบเลี้ยงปลาในกระชังในเขต อ.น้ำพอง

ว่าที่ ร.ต.นวรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า แหล่งน้ำขนาดใหญ่ใน จ.ขอนแก่นเข้าสู่ขั้นวิกฤตแล้ว เพราะมีปริมาณน้ำเหลือน้อยมาก และยังไม่มีวี่แววว่าจะมีน้ำไหลเข้าเติมเก็บกักในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จึงเป็นเหตุให้จังหวัดขอนแก่นประกาศภัยพิบัติภาวะฝนแล้งตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.58 ที่ผ่านมา ครอบคลุม 16 อำเภอ 105 ตำบล 1,005 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 9.46 ของหมู่บ้านทั้งจังหวัด ซึ่งมีอยู่ 2,331 หมู่บ้าน

ประกอบด้วย อ.พระยืน, สีชมพู, แวงใหญ่, บ้านแฮด, เวียงเก่า, ชนบท, ชุมแพ, บ้านฝาง, มัญจาคีรี, หนองนาคำ, ภูเวียง, หนองสองห้อง, เมืองขอนแก่น และ อ.เปือยน้อย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 53,479 ครัวเรือน 27,854 คน คิดเป็นร้อยละ 9.46 ของครัวเรือนทั้งจังหวัด จำนวน 26 อำเภอ

“ขณะนี้ได้มีการประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งในส่วนของ อบจ., เทศบาล, และ อบต. ให้เริ่มสูบน้ำเพื่อกักเก็บไว้ในหนองน้ำสาธารณะเพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอ หรือเก็บให้ได้มากที่สุด โดยสูบจากลำน้ำชี และลำน้ำพองเป็นหลัก จากนั้นจะประกาศห้ามสูบน้ำจากทุกแห่งเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ รวมทั้งสั่งห้ามไม่ให้สนับสนุนค่าเชื้อเพลิงสูบน้ำเพื่อการเกษตร” ว่าที่ ร.ต.นวรัตน์กล่าว