ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยอมรับสภาพแล้งหนัก เผยปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนหลัก 2 แห่งเหลือเพียง 18% ย้ำต้องเข้มงวดแผนบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด ปล่อยน้ำหล่อเลี้ยงแม่น้ำปิงสัปดาห์ละ 1.7 ล้านลูกบาศก์เมตร เน้นอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเป็นหลัก เชื่อฝ่าวิกฤตได้แน่หากผู้ใช้นำปฏิบัติตามแผน
วันนี้ (19 ม.ค. 59) นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ในปีนี้ยอมรับว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนสำคัญ ทั้งเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลและเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ที่ล่าสุดมีปริมาณน้ำกักเก็บเหลือรวมกันเพียงประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 18% ของความจุดอ่างเท่านั้น จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทำให้ทางจังหวัดเชียงใหม่และชลประทานต้องร่วมกันทำการวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวดเต็มที่ โดยเน้นเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ด้วยการขอความร่วมมือให้งดการทำนาปรังแล้วปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทน ส่วนในพื้นที่ที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้ก็จะมีการจัดทำโครงการจ้างงานเพื่อสร้างรายได้ชดเชยให้
สำหรับปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงของจังหวัดเชียงใหม่นั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำน้อยมาก ต้องได้รับการจัดสรรน้ำจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลที่จะปล่อยน้ำให้สัปดาห์ละ 1.7 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อหล่อเลี้ยงนำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศในลำน้ำของแม่น้ำปิง
ซึ่งในช่วงที่ลำน้ำแม่ปิงผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่สะพานนวรัฐไปจนถึงประตูระบายน้ำในลำน้ำปิง ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จะมีการรักษาระดับปริมาณน้ำอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อมีการปล่อยน้ำ 1.7 ล้านลูกบาศก์เมตร มาจากเขื่อนก็จะมีการเปิดประตูระบายน้ำปริมาณดังกล่าวไปยังพื้นที่หลังประตูระบายน้ำให้สามารถใช้ประโยชน์ได้
ทั้งนี้ นายมงคลยืนยันว่า หากผู้ที่ใช้น้ำในแม่น้ำปิงทุกคนตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ไปถึงจังหวัดลำพูนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเคร่งครัด มั่นใจว่าด้วยปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ยังเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงและใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ไปจนถึงเดือน พ.ค. 59 ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้พบว่ามีกลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังจำนวนหนึ่ง
นอกเหนือจาก 800 รายที่เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำปิง ที่ได้พูดคุยทำความเข้าใจและขอความร่วมมืองดเลี้ยงไปแล้ว มีการฝ่าฝืนเลี้ยงปลากระชังในคลองซอยส่งน้ำ ซึ่งตามแผนบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอสำหรับการเลี้ยงปลาดังกล่าวที่จะได้รับความเสียหายแน่นอน โดยเวลานี้ได้สั่งการให้ประมงจังหวัดเร่งเข้าไปทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหาแล้วก่อนที่จะได้รับผลกระทบหนัก
นอกจากนี้ ในส่วนของมาตรการอื่นๆ เพื่อเตรียมตัวรับมือสถานการณ์ภัยแล้งนั้น นายมงคลกล่าวว่า มีการสั่งการผ่านนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ให้ดำเนินการประสานไปยังทุกพื้นที่หมู่บ้านและตำบลทำการตรวจสอบบ่อบาดาลที่มีอยู่ในพื้นที่ทั้งหมดว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ เพื่อดำเนินการปรับปรุงให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ให้สำรวจแหล่งน้ำผิวดินอื่นๆ ในพื้นที่ด้วย และทำการพัฒนาให้อยู่ในสภาพที่ดีพร้อมจะกักเก็บน้ำหรือรับปริมาณน้ำเพิ่มเติมเพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมรับสถานการณ์มากที่สุด ส่วนพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ล่าสุดมี 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอยเต่า และอำเภอสันกำแพง รวม 19 หมู่บ้าน