มูลนิธิเพื่อนหญิงขอ “ชายไทย” ไม่สูบบุหรี่ในบ้าน เป็นของขวัญวันสตรีสากล ลดการรับบุหรี่มือสอง ต้นตอเกิดโรคร้ายแรง
วันนี้ (6 มี.ค.) นางธนวดี ท่าจีน ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า เนื่องในวันสตรีสากล 8 มี.ค. ขอเรียกร้องให้ผู้ชายไทยไม่สูบบุหรี่ภายในบ้าน เพื่อเป็นของขวัญ และลดการได้รับควันบุหรี่มือสองในหญิงไทย โดยแม้หญิงไทยร้อยละ 98 จะไม่สูบบุหรี่ แต่ก็ได้รับควันบุหรี่ในบ้านระดับที่สูงมาก จากผลสำรวจทั่วประเทศเมื่อ พ.ศ.2554 พบว่า มีประชากรหญิง และชายอายุ 15 ปีขึ้นไปที่ไม่สูบบุหรี่ 11.6 ล้านคน ได้รับควันบุหรี่ในบ้าน ในจำนวนนี้ 8.4 ล้านคนเป็นเพศหญิง โดยหญิงภาคใต้ได้รับควันบุหรี่ในบ้านด้วยอัตราที่สูงสุดคือ 43.5% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 29.0% ภาคเหนือ 25.9% ภาคกลาง 27.6% และต่ำสุดใน กทม. 13.2%
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ควันบุหรี่มีสารก่อมะเร็ง 70 ชนิด สารพิษ 250 ชนิด จึงเป็นมลพิษทางอากาศที่สำคัญที่สุดในบ้าน และสารพิษจะลอยวนเวียนอยู่นานนับชั่วโมงภายหลังที่มีการสูบบุหรี่ และสามารถจะวัดสารพิษได้ แม้จะไม่มีกลิ่นบุหรี่แล้วก็ตาม การได้รับควันบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบ หรือควันบุหรี่มือสองทำให้เกิดโรคร้ายแรงได้ ทั้งการเป็นมะเร็งปอด โรคเส้นเลือดหัวใจและสมอง เกิดอาการหืดจับ และการติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็ก ทั้งนี้ การวิเคราะห์ฐานข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบว่า ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากการได้รับควันบุหรี่มือสองปีละ 6 แสนคน ในจำนวนนี้เกือบครึ่งหนึ่งหรือ 47% เป็นผู้หญิง 25% เป็นผู้ชาย และ 28% เป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเมื่อแยกแยะแล้วพบว่า เป็นการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ 379,000 คน โรคหอบหืด 36,900 คน มะเร็งปอด 21,400 คน และการติดเชื้อในปอด 165,000 คน การไม่สูบบุหรี่ในบ้าน นอกจากจะลดโอกาสที่คนในบ้านจะเจ็บป่วย และเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสองแล้ว ยังทำให้ผู้สูบบุหรี่สูบน้อยลง เลิกสูบได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสที่ลูกจะติดบุหรี่ และลดโอกาสไฟไหม้บ้านด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่