เครือข่ายเอดส์ฯ เสนอ สธ.ยกระดับ รพ.สต.แบบเบ็ดเสร็จ จ่ายยาต้านไวรัสฯ ตรวจเลือดฟังผลได้ในที่เดียว ลดแออัด รพ.ใหญ่ ชี้ร้านยาจ่ายยาต้านไวรัสฯ เป็นเรื่องดี แต่ร้านยาต้องมีคุณภาพ
นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์จะรับยาต้านไวรัสฯ ในสถานพยาบาลที่มีสิทธิการรักษาทุก 3-4 เดือน ส่วนใหญ่จะเป็นโรงพยาบาลระดับปฐมภูมิ คือ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แต่ทุก 4 เดือนอาจต้องไปเจาะเลือด หรือพบแพทย์ซ้ำ ซึ่งบางรายไม่ค่อยสะดวกเนี่องจากต้องเดินทางจากบ้านไปโรงพยาบาลใหญ่ที่ค่อนข้างไกล จึงเป็นภาระแก่ผู้ป่วย ซึ่งจะดีกว่าหรือไม่หากการพบแพทย์หรือการส่งตรวจเลือดจะทำได้ที่ รพ.สต.แบบเบ็ดเสร็จ
“กระทรวงสาธารณสุขน่าจะยกระดับ รพ.สต.ให้มีศักยภาพแบบเบ็ดเสร็จ สามารถให้ยาต้านไวรัสฯ และตรวจเลือดฟังผลได้ที่ รพ.สต.เลย เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่รับยาเป็นประจำจะมีอาการคงที่ สามารถควบคุมอาการได้ในระดับดี ดังนั้น หากลดเวลา ลดปัญหาการแออัดในโรงพยาบาลใหญ่ๆ แนวทางนี้ก็น่าจะดีกว่า ส่วนที่เคยมีข้อเสนอว่าควรรับยาต้านไวรัสฯ ในร้านขายยา เพื่ออำนวยความสะดวกนั้น หลักการคือทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการบริการและรักษา ถือเป็นเรื่องดี แต่ต้องพิจารณาดีๆ เพราะต้องเป็นร้านยาคุณภาพ มีเภสัชกรประจำ และต้องมีการส่งต่อข้อมูลของผู้ป่วยอย่างครบถ้วน ไม่ผิดพลาด ซึ่งเรื่องนี้ตนมองว่าต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างละเอียดด้วย” นายอภิวัฒน์กล่าว
รศ.ภญ.สุณี เลิศสินอุดม ผู้จัดการสถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน (ร้านยา) คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และประธานสาขาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ที่ผ่านมาในขอนแก่นมีร้านยาคุณภาพ และร้านยาที่มีเภสัชกรประจำตลอดเวลาอยู่ 20 แห่ง ซึ่งได้เข้าโครงการและร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 3 กลุ่ม คือ เบาหวาน ความดันโลหิต และโรคหืดในเด็ก มารับยาที่ร้านขายยาดังกล่าวได้เป็นประจำทุกๆ 1 เดือน ซึ่งในกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องเจาะเลือดก็ยังต้องไปเจาะเลือดพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ดังนั้น จากประสบการณ์ดังกล่าวหากจะให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาเช่นกัน เพราะทำหน้าที่จ่ายยาตามใบสั่งแพทย์
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่