มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเผยทิศทางปี 59 เล็งยกระดับมาตรฐานงานคุ้มครองผู้บริโภค 7 ด้าน ทั้งบริการสาธารณะ ยา อาหาร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่อยู่อาศัย พร้อมทำคู่มือผู้บริโภคฉบับเยาวชน 11 เรื่อง หวังรู้เท่าทันการโฆษณา บริการสุขภาพ โทรคมนาคม
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า การดำเนินงานของมูลนิธิฯ ในปี 2559 จะเน้นการยกระดับมาตรฐานงานคุ้มครองผู้บริโภค โดยจะทำงานร่วมกับคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมามีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการในการดำเนินงาน 7 ด้าน คือ ด้านบริการสาธารณะ ด้านสื่อ ด้านสินค้าและบริการอื่นๆ ด้านที่อยู่อาศัย ด้านยา อาหาร และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ด้านสุขภาพ และด้านการเงินการธนาคาร ซึ่งแต่ละด้านก็จะไปทำแผนยกระดับมาตรฐานงานคุ้มครองผู้บริโภคของตนเองมา เช่น รถโดยสารสาธารณะ ในปี 2559 จะรณรงค์ในเรื่องการทำให้รถโดยสารสาธารณะมีประกันภัยชั้นหนึ่ง เพื่อคุ้มครองผู้โดยสาร การเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยไม่ยึดติดกับฐานานุรูป เพราะที่ผ่านมามักพบว่าจ่ายเบี้ยประกันเท่ากัน แต่ได้รับเงินสินไหมหรือเยียวยาไม่เท่ากัน โดยคนที่มีฐานะที่ดีกว่ามักได้รับการชดเชยที่ดีกว่า รวมไปถึงการรณรงค์ให้รถใหม่ทุกคันต้องมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะและรถส่วนตัว
"ปัจจุบันรถในประเทศไทยไม่มีการติดอุปกรณ์ความปลอดภัยเหมือนกับต่างประเทศ เช่น ยุโรป ทั้งที่ประเทศไทยเองก็เป็นฐานการผลิตรถยนต์ ซึ่งตรงนี้มองว่ากรมการขนส่งทางบกจะต้องวางมาตรฐานของรถ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะที่จะต้องมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ซึ่งต่างประเทศรณรงค์ใน 3 ส่วนคือ ระบบเบรกอัตโนมัติฉุกเฉิน ระบบเตือนภัยความดันลมยาง และระบบเบรกอัตโนมัติรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งจะช่วยให้ลดอุบัติเหตุลงได้ ซึ่งมูลนิธิฯ จะเน้นในเรื่องเหล่านี้" น.ส.สารี กล่าว
น.ส.สารี กล่าวว่า นอกจากนี้ จะทำคู่มือผู้บริโภคสำหรับเด็กมัธยมศึกษาด้วย เพื่อให้เด็กและเยาวชนเข้าใจถึงสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค และสามารถดำเนินชีวิตโดยเข้าใจถึงสิทธิของตัวเองและการปกป้องสิทธิของตนเอง โดยมีทั้งหมด 11 เรื่อง เช่น ผู้บริโภคเป็นใครมีสิทธิอะไรบ้าง ปัญหาของผู้บริโภคมีอะไรบ้าง และมีหน่วยงานใดรับเรื่องร้องเรียน การจับตาการโฆษณา การใส่ใจรถโดยสาร ฉลาดซื้ออาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ฉลาดซื้ออาหารโดยใช้ไฟสัญญาณจราจร สิทธิในการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เท่าทันโทรคมนาคม บริการสุขภาพ และเท่าทันการใช้เงิน เป็นต้น ซึ่งเพิ่งมีการนำคู่มือดังกล่าวไปทดสอบนำร่องกับนักเรียนมัธยมใน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 16-17 ธ.ค. 2558 ที่ผ่านมา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
