นนทบุรีพร้อมดูแล "ปั่นเพื่อพ่อ" จักรยาน มอเตอร์ไซค์ และรถยนต์กู้ชีพอาสากว่า 20 คัน เข้ารับเครื่องเออีดีช่วยปั๊มหัวใจจาก สพฉ. ก่อนประจำตามจุด ด้านเลขาธิการ สพฉ.ชี้มหกรรมออกกำลังกายขนาดใหญ่ต้องมีทีมกู้ชีพติดตามใกล้ชิด ช่วยเข้าถึงผู้ป่วยเร็วใน 5 นาที เตรียมสร้างเป็นมาตรฐานการจัดงาน
วันนี้ (11 ธ.ค.) บรรยากาศการเตรียมความพร้อมดูแลผู้เข้าร่วมกิจกรรม ปั่นเพื่อพ่อ Bike For Dad ของ จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 13.00 น. ทีมอาสาเตรียมพร้อมรับภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งประกอบด้วยทีมจักรยานอาสากู้ชีพ ปั่นตามขบวน 5 คัน ทีมจักรยานยนต์กู้ชีพจากวชิรพยาบาลประมาณ 10 คัน และทีมรถยนต์กู้ชีพเฉพาะกิจจากวชิรพยาบาลประมาณ 5 คัน รวมประมาณ 20 คัน ได้เข้ามารับมอบเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (เออีดี) แบบสะพายหลังจำนวน 20 เครื่อง จาก นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) พร้อมเซ็ตระบบการทำงานของเครื่อง จากนั้นจึงแยกย้ายไปประจำตามจุดต่างๆ ที่กำหนด เพื่อดูแลผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่อไป
นพ.อนุชา กล่าวว่า มหกรรมออกกำลังกายขนาดใหญ่มักจะเกิดเหตุผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการดูแล ซึ่งงานปั่นเพื่อพ่อ Bike For Dad ถือเป็นมหกรรมการออกกำลังกายขนาดใหญ่เช่นกัน สพฉ.จึงพยายามสนับสนุนการดูแลผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินในงานมหกรรมการออกกำลังกายขนาดใหญ่เช่นนี้ให้เกิดมาตรฐานเท่าเทียมกับสากล ซึ่งที่ผ่านมามักจะมีการตั้งทีมแพทย์ประจำตามจุดต่างๆ เท่านั้น แต่ในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จะพบว่าเมื่อมีงานมหกรรมออกกำลังกายขนาดใหญ่ จะต้องมีทีมจักรยาน จักรยานยนต์กู้ชีพคอยดูแลตามขบวน ซึ่งจากข้อมูลของประเทศญี่ปุ่นพบว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินทีมกู้ชีพตามขบวนจะสามารถเข้าถึงตัวผู้ป่วยได้รวดเร็วกว่าภายในเวลา 5 นาที โดยจะทำการโทร.แจ้ง 1669 และช่วยทำการปั๊มหัวใจ จากนั้นเมื่อหน่วยงานกู้ชีพมาถึงก็จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
"สำหรับกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ นอกจากในพื้นที่ กทม.ที่มีการเตรียมทีมแพทย์กู้ชีพปั่นตามขบวนแล้ว พื้นที่อื่นๆ ที่มีการจัดทีมกู้ชีพตามขบวนคือ นนทบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา ซึ่งแม้จะยังมีจำนวนน้อย แต่ในอนาคตเชื่อว่าเมื่อมีการจัดกิจกรรมออกกำลังกายขนาดใหญ่เช่นนี้อีก ทุกพื้นที่ควรจะต้องมีการจัดทีมกู้ชีพคอยติดตามดูแล" เลขาธิการ สพฉ. กล่าว
สำหรับจุดจอดรถจักรยานยนต์พร้อมเครื่องเออีดีของ จ.นนทบุรี ประกอบด้วย 1.เบี่ยงรัตนาธิเบศร์ตัดราชพฤกษ์ 2.ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ 3.วัดเฉลิมพระเกียรติ 4.สะพานพระราม 5 ขาขึ้น 5.กลางสะพานพระราม 5 6.สะพานพระราม 5 ขาลง 7.สะพานติวานนท์ขาขึ้น 8.สะพานติวานนท์ขาลง และ 9.แยกแคราย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่