สิทธิบัตรทองรักษา "ไข้เลือดออก" ครอบคลุมภาวะแทรกซ้อน

สปสช.เผยสิทธิบัตรทองครอบคลุมการรักษาไข้เลือดออก รวมภาวะแทรกซ้อนด้วย เครื่องพยุงการทำงานปอดและหัวใจใช้ได้หากแพทย์เห็นว่าจำเป็น

วันนี้ (26 พ.ย.) นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ไข้เลือดออกถือเป็นโรคประจำถิ่นของประเทศไทย แต่ละปีจะมีผู้ป่วยประมาณ 2-3 หมื่นราย แต่บางปีจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นและมีภาวะรุนแรง โดยผู้ที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) หากป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก สิทธิประโยชน์การรักษานั้นจะครอบคลุมค่ารักษาทั้งหมด ที่มีการจัดสรรเป็นค่าเหมาจ่ายรายหัวไปยังโรงพยาบาลต่างๆ แต่หากป่วยแล้วอาการรุนแรงมีภาวะแทรกซ้อน จะใช้ค่ารักษาที่จ่ายตามกลุ่มโรค หรือกรณีที่มีค่ารักษาพยาบาลที่สูงเกินจริงๆ โรงพยาบาลก็สามารถยื่นอุทธรณ์ค่ารักษาพยาบาลมายัง สปสช.ได้โดยจะมีการพิจารณาเป็นรายกรณี

"ทั่วไปสิทธิบัตรทองครอบคลุมค่าใช้จ่ายไข้เลือดออกให้กับผู้ป่วยอยู่แล้ว แต่หากมีอาการรุนแรงแล้วมีภาวะแทรกซ้อน จะดูตามภาวะแทรกซ้อนอะไรแล้วจ่ายค่ารักษาตามกลุ่มโรค เช่น ไตวาย คือ ไตไม่ทำงานเฉียบพลันจากการติดเชื้อหรือเป็นภาวะแทรกซ้อนของไข้เลือดออกก็จะจ่ายค่าฟอกเลือดให้ 2,000 บาทต่อการฟอกเลือด 1 ครั้ง แต่หากเป็นการฟอกเลือดจากโรคไตวายเรื้อรังก็จ่ายให้ 2-3 แสนบาทต่อคนต่อปีตลอดชีวิต หรือถ้าต้องผ่าตัดตรงจุดไหนก็จ่ายตามค่าผ่าตัดในกรณีนั้นๆ ตามปกติ อย่างผ่าตัดลำไส้ก็จ่ายตามค่าผ่าตัดลำไส้ รวมถึง การใช้เครื่องพยุงการทำงานของปอดและหัวใจก็ครอบคลุมในสิทธิประโยชน์เช่นกัน หากแพทย์พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าจำเป็นต้องใช้ และโรงพยาบาลมีศักยภาพในการใช้เครื่องดังกล่าว” นพ.ประทีป กล่าว

นพ.ประทีป กล่าวว่า ส่วนวัคซีนไข้เลือดออกที่คาดว่าจะมีการนำเข้าระบบตลอดอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะสามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ แต่จะมีการพิจารณาบรรจุเข้าสู่ระบบวัคซีนแห่งชาติหรือไม่ต้องพิจารณาในเรื่องของความคุ้มทุน เพราะตามปกติวัคซีนที่ออกมาวางจำหน่ายใหม่ๆราคาจะแพง โดยขณะนี้ฝ่ายวิชาการกำลังพำข้อมูลในเรื่องของภูมิคุ้มกันว่าเมื่อฉีกวัคซีนแล้วจะมีภูมิคุ้มกันอยู่ได้นานเท่าไหร่ และกลุ่มไหนควรได้รับวัคซีน ทั้งนี้ หากวัคซีนบรรจุเข้าระบบวัคซีนชาติ ก็จะนำเข้าเป็นสิทธิประโยชน์ของผู้มีสิทธิบัตรทอง

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่