xs
xsm
sm
md
lg

เครื่องยีนเอ็กซ์เปิร์ต ตรวจหา “เชื้อวัณโรค-เชื้อวัณโรคดื้อยา” ภายใน 2 ชม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เครื่องยีนเอ็กซ์เปิร์ต” นวัตกรรมใหม่ตรวจหา “เชื้อวัณโรค - เชื้อดื้อยาวัณโรค” รู้ผลเร็วภายใน 2 ชั่วโมง ดีกว่าการตรวจวิธีมาตรฐาน ใช้เวลาว่า 2 เดือน กรมควบคุมโรคเผยไทยใช้เครื่งนี้แล้ว 43 แห่ง ระบุส่งมอบเครื่องให้สถานพยาบาลเพิ่มอีก 30 เครื่อง หวังเพิ่มความครอบคลุมการให้บริการ

วันนี้ (6 พ.ย.) นพ.อำนวย กาจีนะ  อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า  วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่ยังเป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุขของประเทศไทย โดยองค์การอนามัยโลกจัดให้ประเทญไทยอยู่ในกลุ่ม 22 ประเทศที่มีปัญหาวัณโรคสูง ซึ่งเมื่อปี 2557 คาดว่า มีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ในไทยถึง 110,000 ราย และเสียชีวิตประมาณ 9,800 รายต่อปี สำหรับการตรวจหาเชื้อวัณโรคด้วยวิธีมาตรฐานจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยมีนวัตกรรมการตรวจหาเชื้อวัณโรคใหม่ คือเครื่องยีนเอ็กซ์เปิร์ต (Gene Xpert) ซึ่งสามารถตรวจหาเชื้อวัณโรค และเชื้อดื้อยาวัณโรคในระดับยีนพันธุกรรมในเครื่องเดียวกัน รู้ผลได้ในระยะเวลา 2 ชั่วโมง ปัจจุบันประเทศไทยใช้เครื่องดังกล่าวแล้ว 44 เครื่อง ในสถานพยาบาล 43 แห่ง ทั้งนี้ ในปี 2558 นี้ กรมฯ ได้ส่งมอบเครื่องยีนเอ็กซ์เปิร์ตให้แก่สถานพยาบาลอีกจำนวน 30 เครื่อง ใน 30 แห่ง เพื่อให้บริการตรวจหาเชื้อวัณโรคและวัณโรคดื้อยาได้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัยวัณโรคและเพื่อให้รู้ผลตรวจเร็วขึ้น

วัณโรคปอดติดต่อโดยการแพร่เชื้อกระจายจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งผ่านทางอากาศ โดยผู้ป่วยที่มีเชื้อในเสมหะ เมื่อไอ จาม เชื้อจะล่องลอยไปในอากาศ ผู้ที่สูดหายใจเอาเชื้อเข้าไปอาจจะป่วยเป็นวัณโรคได้ ดังนั้น เมื่ออาศัยอยู่ในพื้นที่แออัดร่วมกับผู้ป่วยวัณโรค จึงมีโอกาสสัมผัสและแพร่กระจายโรคได้สูงกว่าปกติ กลุ่มที่มีความเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุ มีโอกาสป่วยมากกว่าคนทั่วไป 4 - 5 เท่า ผู้ต้องขังในเรือนจำ สูงกว่าคนทั่วไป 6 เท่า นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้สัมผัสร่วมในบ้าน เด็ก แรงงานย้ายถิ่น แรงงานต่างด้าว เป็นต้น ” นพ.อำนวย กล่าว

นพ.อำนวย กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการป่วยเป็นวัณโรค คือ 1. ตรวจเช็กร่างกายโดยการเอ็กซเรย์ปอดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง  2. นำเด็กแรกเกิดไปรับการฉีดวัคซีนบีซีจี ที่โรงพยาบาลทุกแห่งหรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน 3. หากมีอาการสงสัยป่วยเป็นวัณโรค เช่น ไอติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ ไอแห้ง ๆ หรือไอมีเสมหะ หรือไอมีเสมหะปนเลือด มีไข้ต่ำ ๆ ตอนบ่ายหรือค่ำ เจ็บหน้าอก น้ำหนักลด เป็นต้น ควรรีบไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง หรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน 4. รักษาสุขภาพให้แข็งแรงโดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และกินอาหารที่มีประโยชน์ 5. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ ซึ่งจะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเสื่อมลง มีโอกาสป่วยเป็นวัณโรคได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญ วัณโรคสามารถรักษาให้หายได้ โดยกินยาอย่างต่อเนื่องครบทุกมื้อ 6 - 8 เดือน ไม่หยุดยาเอง และควรมีพี่เลี้ยงดูแลการกินยาจนครบการรักษา หากมีอาการแพ้ยา ให้รีบไปปรึกษาแพทย์ นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนเมื่อมีอาการไอ จาม หรือเป็นหวัด ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่สู่ผู้อื่น และควรสวมใส่ให้เป็นนิสัย

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น