“Thai health Day 10K Run 2015” หรืองานวิ่งสู่ชีวิตใหม่ (Run for New Life) รวมพลคนจิตอาสา เตรียมความพร้อมรับมือนักวิ่ง 10,000 คน บันทึกสถิติระยะทางรวมนักวิ่งกว่า 100,000 กิโลเมตร
นายณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิแผนส่งเสริมการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อธิบายการเตรียมความพร้อมงาน Thai health Day 10K Run 2015 ว่า ได้หารือร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจเพื่อจัดสรรเส้นทางวิ่งที่ปลอดภัย โรงพยาบาลที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักวิ่ง สมาพันธ์ชมรมวิ่งต่าง ๆ และกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมความพร้อมงานวิ่งให้สมบูรณ์
นอกจากนี้ ยังได้จัดอบรมอาสาสมัคร การพัฒนาผู้นำวิ่งเพื่อสุขภาพให้เป็นแกนนำสร้างนักวิ่งหน้าใหม่ โดยมีอาสาสมัครประมาณ 300 คน ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ทีมนักวิ่งนำเวลา (Pacer) ทำหน้าที่วิ่งนำนักวิ่งให้เข้าสู่เส้นชัยในช่วงเวลาที่ตั้งเป้าไว้ในระยะทาง 10 กิโลเมตร โดยแบ่งช่วงเวลาเป็น 50 - 90 นาที ระยะห่างช่วงละ 10 นาที นักวิ่งนำทางมีกลุ่มละ 10 คน โดยจะมีสัญลักษณ์บอกว่าแต่ละกลุ่มจะใช้เวลาเท่าไร
นายณรงค์ อธิบายต่อไปว่า กลุ่มที่ 2 ทีมปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉิน (First Aid/EMS) ทำหน้าที่ดูแลนักวิ่งที่ประสบปัญหาการบาดเจ็บระหว่างเส้นทางวิ่ง อาสาสมัครกลุ่มนี้จะได้รับการฝึกและอบรมวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นในกรณีที่มีนักวิ่งเป็นลม หรือหมดสติ กลุ่มที่ 3 ทีมสนับสนุนการบริการท้ายขบวนวิ่ง (Sweeper) ทำหน้าที่ให้บริการ ดูแลความเรียบร้อยตลอดเส้นทางการวิ่ง และคอยดูแลนักวิ่งให้พยายามวิ่งเข้าเส้นชัยไปด้วยกันทั้งหมด และกลุ่มที่ 4 ฝ่ายสื่อสาร และดูแลความปลอดภัยบนเส้นทางวิ่ง โดยกลุ่มเหยี่ยวเวหา นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครที่อยู่ประจำตามจุดคอยดูแลความสะอาด และอาสากองเชียร์ตามเส้นทางวิ่งจะมีกองเชียร์จากชุมชนต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้แก่นักวิ่งอีกด้วย
“กระแสการวิ่งกำลังได้รับความนิยม มีคนตื่นตัวออกมาวิ่งมากขึ้น ซึ่ง สสส. และสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย คาดว่าจะมีนักวิ่งหน้าใหม่ตบเท้าเข้าร่วมบันทึกประวัติศาสตร์กว่า 5,000 คน และประชาชนที่มาร่วมวิ่งรวมกว่า 10,000 คน โดยจะมีการนับระยะทางรวมของนักวิ่งทุกคนให้ได้100,000 กิโลเมตร จึงอยากจะพัฒนางานวิ่งให้ดีและมีมาตรฐานเพื่อให้คนที่ออกมาวิ่งรู้สึกว่า การวิ่งเป็นเรื่องดีที่ทำให้ได้ทั้งสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขกับการวิ่ง อีกทั้งยังเน้นเรื่องพลังจิตอาสา พลังแห่งการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้งานวิ่งสู่ชีวิตใหม่ปีนี้มีความสมบูรณ์มากที่สุด” ผู้ทรงคุณวุฒิแผนส่งเสริมการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อสุขภาพ สสส. ย้ำถึงการเตรียมความพร้อมในงาน Thai health Day 10K Run 2015
ด้าน นางสาวธัญวรัตม์ อินทร อายุ 34 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ที่ใช้การวิ่งเป็นเครื่องมือออกกำลังกายมากว่า 3 ปี หนึ่งในอาสาสมัครทีมสนับสนุนการบริการท้ายขบวนวิ่ง (Sweeper) บอกเล่าความประทับใจการเป็นอาสาสมัครในงานวิ่งครั้งนี้ว่า รู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้งานวิ่งสมบูรณ์ขึ้น เพราะหากเราแค่มาวิ่งเพียงอย่างเดียว เราก็ได้แค่วิ่งเข้าเส้นชัย ไม่ได้สนใจคนรอบข้างว่าเขาจะวิ่งหรือไม่ แต่เมื่อเราได้มาเป็นอาสาสมัครทำให้เราต้องคอยสังเกตและดูแลคนรอบข้าง เพื่อให้เข้าสู่จุดหมายร่วมกัน
“การวิ่งนอกจากจะได้สุขภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยในเรื่องจิตใจ เพราะแทนที่เราจะเอาเวลาไปเที่ยวเพื่อแลกกับความสุขเพียงสั้น ๆ แต่สุดท้ายแล้วเราต้องดูแลสุขภาพตัวเอง หากร่างกายเราไม่แข็งแรงก็ต้องเป็นภาระให้ผู้อื่น และถ้าหากเราจะไปช่วยดูแลคนอื่นอย่างน้อยเราก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ได้ก่อน เพราะเมื่อสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจก็ตามมา” นักวิ่งอาสาฯ สะท้อนมุมมองการวิ่ง
เช่นเดียวกันกับ นางสาวสิริพิรญา แสงแก้ว อายุ 33 ปี อาชีพ พนักงานบริษัท อาสาสมัครทีมนักวิ่งนำเวลา (Pacer) เล่าถึงการเป็นอาสาสมัครในงานวิ่งครั้งนี้ให้ฟังว่า หลายคนมีเป้าหมายของการวิ่งที่ต่างกัน บางคนวิ่งเพื่อเข้าเส้นชัย บางคนวิ่งเพื่อพัฒนาศักยภาพการวิ่งของตนเอง ซึ่งการมีอาสาสมัครที่คอยช่วยดูแล ให้นักวิ่งที่ต้องการทำเวลาตามที่ตั้งเป้าไว้ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยให้นักวิ่งมีกำลังใจและได้ทำตามเป้าหมายที่วางไว้ในการวิ่ง ซึ่งการเป็นอาสาสมัครยังทำให้เราได้รู้จักนักวิ่งใหม่ ๆ อีกด้วย
สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมงานวิ่ง Thai Health Day 10K Run 2015 ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2558 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า กรุงเทพมหานคร สามารถสมัครได้ที่สมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย หรือสมัครผ่านออนไลน์ได้ ที่ FB: www.facebook.com/thaijoggingmagazine Email: thaihealthdayrun@gmail.com โทร. 02-2787913
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่