สืบพบแหล่งขายยาสมุนไพรปนเปื้อนสารหนูให้สาวฮ่องกง สธ. ร่วม บก.ปคบ. บุกรวบ “หมอหนุ่ม” คาร้าน พบแอบอ้างเป็นหมอแผนแผนไทย ผลิตยา เปิดร้านรักษาโดยไม่มีใบอนุญาต ยึดของกลางรวมกว่า 2 แสนบาท แจ้ง 4 ข้อหา
วันนี้ (27 ต.ค.) นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมด้วย น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ คุ้มสระพรหม รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) แถลงข่าวกรณีหญิงสาวชาวฮ่องกงมีอาการแขนขาชา หลังกินยาแคปซูลสมุนไพรรักษาอาการผื่นผิวหนังอักเสบที่ซื้อมาจากประเทศไทย โดยแพทย์ตรวจพบปริมาณสารหนูในปัสสาวะสูงกว่ามาตรฐาน ว่า จากการสืบสวนร่วมกันระหว่าง อย. ตำรวจ บก.ปคบ. สบส. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชลบุรี พบว่า มีผู้แอบอ้างเป็นหมอสั่งจ่ายยาสมุนไพรให้ผู้ป่วย อยู่ที่ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังสถานที่เป้าหมายเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 16 ม.6 ต.วัดหลวง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ผลการตรวจพบว่า สถานที่ดังกล่าวเปิดเป็นร้านขายยาแผนโบราณ แต่มีการรับรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนัง โดยเฉพาะโรคสะเก็ดเงิน มีการโฆษณารักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยยาสมุนไพร พบนายอนุวัฒน์ ทับคง หรือหมอหนุ่ม กำลังรักษาผู้ป่วย โดยมีการแอบอ้างเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้านจังหวัดชลบุรี เพราะจากการตรวจสอบไม่มีใบอนุญาตสถานพยาบาลและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย
นพ.บุญชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบคนงานกำลังนำผงสมุนไพรสีน้ำตาล มีชื่อระบุว่า สะเก็ดเงินบรรจุใส่ปลอกแคปซูล ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะไม่มีใบอนุญาตผลิตยา จึงได้ยึดผลิตภัณฑ์เอาไว้ อาทิ ยาหม่อง บุญบาล์ม ขี้ผึ้งรักษาโรคสะเก็ดเงิน กระปุกยารักษาคนไข้ชนิดผง ยาเม็ดบดอัดทำเอง สมุนไพรฝุ่นหอมปราบเกลื้อน น้ำมันไพร และยาเม็ดแคปซูล รวมถึงกระปุกยารอการบรรจุ โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมมูลค่าของกลางกว่า 2 แสนบาท เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ดังนี้ 1. ผลิตยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 5,000 บาท 2. ผลิตและขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 4. ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.บุญชัย กล่าวว่า ยาแผนโบราณที่จับได้นี้ถือว่าอันตราย มีผลข้างเคียงสูง เพราะตรวจพบสารหนู หากรับประทานในขนาดที่สูงมากอาจมีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต อาการที่พบ เช่น อาการไข้ เบื่ออาหาร ตับโต หัวใจเต้นผิดปกติ และหากได้รับสารหนูบ่อย ๆ จะเกิดการสะสม และอาจทำให้เป็นมะเร็งได้ในระยะยาว ส่วนปรอทที่ผสมในยาแผนโบราณ อาจจะทำให้เป็นพิษ โดยมีอาการปากเปื่อย เหงือกอักเสบ ฟันหลุด น้ำลายไหลมากผิดปกติ และ ไตวาย เป็นต้น ที่สำคัญขอเตือนว่าไม่ควรไปรับการรักษากับสถานที่ซึ่งไม่ใช่สถานพยาบาล และผู้รักษาไม่ได้จบแพทย์โดยตรงเด็ดขาด ดังนั้น ควรเลือกซื้อยาจากร้านขายยาที่มีใบอนุญาตถูกต้อง หรือร้านยาคุณภาพ และควรตรวจสอบฉลากยา โดยฉลากต้องระบุชื่อยา เลขทะเบียนตำรับยา เช่น ทะเบียนยาเลขที่ G 888/50 ปริมาณของยาที่บรรจุ เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตยา เป็นต้น
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่