xs
xsm
sm
md
lg

ดึงวิทยาลัยเอกชนร่วมโครงการบริการซ่อมแซม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สอศ. ผุดอาชีวะซ่อมสร้าง สนองนโยบายกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาล จำนวน 2,000 ศูนย์ ของ 368 วิทยาลัย เน้นให้บริการซ่อมแซม บำรุงอุปกรณ์ ด้าน “สุรเชษฐ์” ย้ำต้องใช้เงินคุ้มค่าและโปร่งใส ชวนวิทยาลัยเอกชนร่วมโครงการ ขณะที่ “ชัยพฤกษ์” เผยแผนงานภายใน พ.ย. 2558 ต้องเบิกจ่ายให้ได้ 75% และในเดือน ธ.ค. 58 ต้องเบิกจ่ายให้เสร็จ

วันนี้ (19 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) มอบนโยบายการดำเนินโครงการอาชีวะบริการซ่อมสร้างเพื่อชุมชน ตามมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาล แก่ผู้บริหารวิทยาลัยในสังกัด สอศ. ทั่วประเทศผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ตอนหนึ่งว่า โครงการอาชีวะบริการฯ เป็นโครงการพิเศษที่ สอศ. เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยใช้ศักยภาพของนักเรียน นักศึกษาอาชีวะที่ครั้งนี้ ขอให้ผู้บริหารวิทยาลัย ประสานความร่วมมือกับวิทยาลัยอาชีวะเอกชนในพื้นที่ร่วมกันออกให้บริการประชาชนผ่านศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน หรือ Fix it center

ทั้งนี้ เป้าหมายหลักของโครงการอาชีวะบริการฯ ดังกล่าวจะเน้นซ่อมบำรุงเครื่องมือการเกษตร ยานพาหนะ อุปกรณ์การประกอบอาชีพ เครื่องใช้ในครัวเรือน ระบบไฟฟ้า ประปา และสาธารณูปโภคอื่น ๆ ในครัวเรือนให้แก่ประชาชนและเกษตรกรที่มีรายได้น้อย เพื่อลดรายจ่ายในการซ่อมบำรุงและยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถใช้งานได้นานขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยแล้ง 14 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ถือเป็นโอกาสดีที่นักเรียน นักศึกษาอาชีวะทั้งรัฐและเอกชน จะได้ทำงานร่วมกัน เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งด้านวิชาการและการปฏิบัติจริง และวิทยาลัยต้องใช้โอกาสนี้สร้างสำนึกเรื่องจิตอาสาและความสามัคคีด้วย ที่สำคัญ เรื่องการใช้งบประมาณขอให้ใช้อย่างประหยัด คุ้มค่า เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส

นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า สอศ. ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการโครงการอาชีวะบริการฯ จำนวน 382 ล้านบาท ในวิทยาลัย 368 แห่ง จำนวน 2,000 ศูนย์ ๆ ละ 191,000 บาท ซึ่งจะใช้เป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าเบี้ยเลี้ยงผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งโครงการนี้ดำเนินการ 3 เดือน คือ ต.ค.- ธ.ค. 58 ตามมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาล โดย พ.ย. วิทยาลัยต้องดำเนินการเบิกจ่ายงบให้ได้ 75% และเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน ธ.ค. นี้
“การเบิกจ่ายงบ รมช.ศึกษาธิการ เน้นย้ำเรื่องความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม สอศ. มีประสบการณ์ในการบริหารโครงการในลักษณะเดียวกันนี้อยู่แล้ว ส่วนของการรายงานผลนั้น ได้จัดทำระบบรองรับแล้ว อย่างไรก็ตาม รมช.ศึกษาธิการ ได้กำชับด้วยว่าให้ทุกวิทยาลัยดูแลเรื่องการปลอดภัยทั้งระหว่างการเดินทางและการปฏิบัติงานให้แก่นักเรียน นักศึกษาที่มาร่วมโครงการ เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา รวมถึงผู้ปกครองคลายกังวลและมีความสุขในการทำงาน” เลขาธิการ กอศ.  กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น